ตลาดรับสร้างบ้านแตะ 12,500 ล้านบาท มั่นใจปีหน้ารัฐเร่งกระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัยดันตลาดโตเพิ่ม

ธรุกิจรับสร้างบ้านยังเติบโตต่อเนื่อง มูลค่าตลาดรวมปีนี้แตะ 12,500 ล้านบาท เผยบ้านระดับกลางบนยังคงหนุนตลาดเติบโต ขณะที่สัดส่วนของบ้านในต่างจังหวัดขยายตัวเพิ่ม มั่นใจปีหน้ายังเติบโตได้ 5 - 7% คาด รัฐบาลเตรียมกระตุ้นภาคที่อยู่อาศัย ขณะที่แบงก์พร้อมให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ พร้อมเร่งเดินแผนพัฒนาสมาคมฯด้านอื่นๆ เต็มรูปแบบ

นางศิริพร สิงหรัญ  นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน  เปิดเผยว่า  ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านปี 2562 มีมูลค่าตลาดรวมราว 12,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 5 % เมื่อเทียบกับปี 2561 ที่มีมูลค่าตลาดรวม 12,000  ล้านบาท  โดยภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้ ส่งผลกระทบกับตลาดรับสร้างบ้านพอสมควร โดยเฉพาะความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีระยะเวลาการตัดสินใจในการเลือกสร้างบ้านที่นานขึ้น แต่เมื่อมีการกระตุ้นทำโปรโมชัน หรือการจัดงานแสดงสินค้า รับสร้างบ้าน 2019 ก็สามารถกระตุ้นภาพรวมตลาดช่วงปลายปีได้ค่อนข้างดีเช่นกัน ประกอบกับตลาดในต่างจังหวัดมีการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นทำให้ตัวเลขภาพรวมยังคงมีการขยายตัวได้​

ภาพรวมปีนี้สมาคมฯ ถือว่าพอใจกับการขยายตัว โดยเหตุผลสำคัญที่ทำให้ตลาดในปีนี้ยังมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น น่าจะมาจากเหตุผล 2 ประการคือ ประการแรกบ้านระดับกลางบนในปีนี้มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น จาก การสำรวจยอดขายภายในงาน รับสร้างบ้านและวัสดุ 2019 พบว่า บ้านระดับราคา 5.01 – 10 ล้านบาท ยังคงมีสัดส่วนสูงสุดคือ 28.71% รองลงมาคือบ้านระดับราคา 20.01 ล้านบาทขึ้นไป 23.98% และบ้านระดับราคา    10.01 – 20 ล้านบาท ที่ 23.88% ประการที่สอง กำลังซื้อในพื้นที่ต่างจังหวัดขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเมื่อปี 2560 สัดส่วนของการปลูกสร้างบ้านในกรุงเทพและปริมณฑล และต่างจังหวัดจะอยู่ที่ 90:10 % ปี 2561 สัดส่วนปรับเป็น 80:20% ขณะที่ในปีนี้ สัดส่วนในต่างจังหวัดยังคงมีปริมาณมากขึ้นมาอยู่ที่ 75:25% การที่ตลาดในต่างจังหวัดขยายตัวเพิ่มขึ้นมีเหตุผลมาจาก บริษัทรับสร้างบ้านหลายบริษัทขยายการทำธุรกิจไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีศักยภาพมากขึ้น ประกอบกับกลุ่มผู้บริโภคในต่างจังหวัดเริ่มมีความเชื่อมั่นและหันมาใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านแทนกลุ่มผู้รับเหมาเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน รวมถึงในส่วนของกฏหมายภาษีที่ดินที่เจ้าของที่ดินต้องมีการใช้ประโยชน์จากที่ดิน ทำให้ในปีนี้มีลูกค้าที่มีที่ดินในต่างจังหวัดหันมาปลูกสร้างบ้านเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

“ปีหน้าเราตั้งเป้าภาพรวมตลาดน่าจะเติบโตได้อีก 5-7% คิดเป็นมูลค่าตลาดรวมประมาณ 13,000 – 13,500 ล้านบาท โดยบ้านระดับกลางบนน่าจะยังเป็นตัวนำตลาดเช่นเดิม ขณะที่ตลาดในต่างจังหวัดคิดว่าจะยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องและหลายๆ บริษัทจะมีการขยับออกไปทำตลาดในต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น” นางศิริพร กล่าว

นางศิริพร กล่าวต่อไปว่า ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมคาดว่ารัฐบาลน่าจะมีมาตรการมากระตุ้นตลาดทางด้านที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ขณะที่ธนาคารของรัฐเองคาดว่าน่าจะมีสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำออกมาให้ผู้บริโภคได้มากขึ้นตามนโยบายที่ผลักดันมาจากภาครัฐเพิ่มมากขึ้น โดยในปี 2563 นอกจากเป้าหมายในเรื่องของการเติบโตทางด้านมูลค่ารวมของธุรกิจแล้ว สมาคมฯ ยังตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาในอีกหลายๆ ด้าน อาทิ ด้านการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานและองค์กรจากต่างประเทศ เพื่อพัฒนาและแลกเปลี่ยนความรู้ และการทำการตลาดร่วมกัน โดยล่าสุดได้มีการเซ็น MOU ร่วมกับ Japan Traditional Wooden Home Association หรือ JTA ซึ่งเป็นสมาคมของบริษัทรับสร้างบ้านประเภทไม้ จากประเทศญี่ปุ่น  ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะสามารถมีการพัฒนาไปสู่ความร่วมมือในด้านอื่น ๆ ต่อไป

นอกจากการเซ็น MOU กับทางญี่ปุ่นแล้ว สมาคมฯ ยังเน้นในด้านการพัฒนาและเพิ่มจำนวนสมาชิกของ สมาคมฯ ให้เพิ่มขึ้นเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว การให้ความสำคัญด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อยกระดับมาตรฐานของการสร้างบ้านให้เป็นที่ยอมรับ การส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันผ่านการจัดงานแสดงสินค้า และการให้ความสำคัญกับเรื่องของการก่อสร้างที่ใส่ใจกับเรื่องสิ่งแวดล้อม  เป็นต้น

17 ธันวาคม 2562


บริษัท มีเดีย เน็ทเวิร์ค จำกัด
138, 140 ซอยอนามัย ถนนศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250
MEDIA NETWORK Co.,Ltd
138, 140 Soi Anamai Srinakarin Road Suanluang Suanluang Bangkok 10250
Tel. 02 721 4417 Fax. 02 721 5516
E-mail : phototechthailand@gmail.com


ติดต่อโฆษณาหรือข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 02 721 4417 , 097 921 2929 คุณขวัญ

แฟนเพจ Phototech Magazine


ออกแบบโดย touronthai