"ลัคกี้สตาร์" เปิดตัว "ซิโก้ -เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง" ย้ำแบรนด์คุณภาพ น่าเชื่อถือ ตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย

"ลัคกี้สตาร์" ตอกย้ำแบรนด์ตู้แช่คุณภาพของไทย เปิดตัว "ซิโก้ -เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง" บุคคลคุณภาพให้เกียรติเป็นพรีเซนเตอร์ครั้งแรกของ แบรนด์ตู้แช่ "ลัคกี้ สตาร์" ชูความเป็นคนเก่ง เป็นที่รัก เข้าถึงง่าย น่าเชื่อถือและความเป็นแฟมิลี่แมน ตัวแทนสินค้าคุณภาพแบรนด์ไทยที่ควรค่าแก่การไว้วางใจและตอบโจทย์การใช้งานของคนทุกเพศทุกวัย เผยธุรกิจปี62 พุ่งแรง เติบโตถึง 144% จากปีก่อน เล็งลุยต่อผลิตตู้แช่แบบ Home Use  เจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์คนวัย 30-40 ปีที่เปลี่ยนไปอยู่คอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นและเครื่องครัวเจาะกลุ่มโรงแรม พร้อมนำแบรนด์คุณภาพบุกตลาดศรีลังกา บังกลาเทศ ฟิลิปปินส์และออสเตรเลีย 

นายมิญช์ นาเงิน รองกรรมการผู้จัดการบริษัทลัคกี้สตาร์ ยูนิเวอร์แซล จำกัด เปิดตัวสินค้าใหม่แบรนด์ลัคกี้ สตาร์ (LUCKY STAR) ที่มีคุณภาพและประหยัดไฟสูงอย่างยิ่งใหญ่  ณ โรงแรมดุสิตธานี เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา พร้อมเปิดตัว "ซิโก้ -เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง" ในฐานะพรีเซนเตอร์ของ แบรนด์ตู้แช่ "ลัคกี้ สตาร์"  ครั้งแรก

นายมิญช์กล่าวว่า  ลัคกี้สตาร์ก่อตั้งในปี 2547 โดยคุณพ่อเล็ก นาเงิน  ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านทำความเย็นจากเคยทำงานในบริษัทผลิตตู้เย็นมาก่อนและภายหลังบริษัทประสบปัญหาต้องปิดตัวลง  คุณพ่อได้นำความรู้ความเชี่ยวชาญมาใช้เป็นผู้ประกอบการผลิตตู้แช่จำหน่าย ดำเนินธุรกิจโดยยึดมั่นเรื่องของคุณภาพได้มาตรฐานมากระทั่งปัจจุบันเป็นเวลา 15 ปี

ทั้งนี้ในประเทศไทยมีแบรนด์ตู้แช่อยู่ 5-6 แบรนด์ แต่ลัคกี้ สตาร์ฯ น่าจะมีส่วนแบ่งของตลาดอยู่ที่อันดับ 3 หรือ 4 โดยมีส่วนแบ่งประมาณ 30%  รองจากแบรนด์SANDEN INTERCOOL  ที่เป็นของไทย และแบรนด์ไฮเออร์ของจีนที่ครองอันดับ 2 โดยผลิตภัณฑ์แบรนด์ลัคกี้ สตาร์ฯ มี 6 ประเภท ได้แก่  ตู้แช่น้ำกระจก ตู้แช่แข็ง ตู้สแตนเลส ตู้แช่แข็งกระจก  ตู้เค้กและตู้ทำความเย็นเร็วยิ่งยวด ซึ่งตู้แช่แข็งมีอุณหภูมิปกติอยู่ที่ –18 องศาถึง -25 องศา

รองกรรมการผู้จัดการบริษัทลัคกี้ สตาร์ยังกล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมตลาดธุรกิจตู้แช่ยังสดใส สามารถเติบโตไปได้อีกในระยะ 1-3 ปีข้างหน้า  โดยในปี 2562 นี้ ลัคกี้ สตาร์ฯ มียอดขายรวมเติบโตเป็นอย่างมากจากปีที่ผ่านมา ถึง 144%  ประเมินว่า ยอดขายจะมีมูลค่าแตะ  210  ล้านบาท จาก 86 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา สาเหตุจากบริษัทมีส่งออกเพิ่มขึ้น  แม้ตลาดหลักยังคงเป็นตลาดในประเทศก็ตามที่มีสัดส่วนถึง 60%  ขณะเดียวกันในประเทศยังมีการทำการตลาดกับเหล่าดีลเลอร์อย่างจริงจัง   อีกทั้งในช่วงนี้สถานการณ์ค่าเงินบาทแข็งตัวขึ้นซึ่งไม่ส่งผลดีต่อการส่งออก

ในปี 2563 ลัคกี้ สตาร์ฯ จะมุ่งทำตลาดกับผู้ใช้งานจริง (End User)เพิ่มขึ้น  ซึ่งสอดคล้องกับในปี 2562 นี้เตรียมผลิตตู้แช่สำหรับใช้ภายในบ้าน(Home  Use) ที่เป็นตู้ขนาดเล็กประมาณ 2-3 คิว (ความจุ2-3 ลูกบาศก์ฟุต) ซึ่งเป็นที่นิยมแช่นมแม่และผลิตภัณฑ์ตู้แช่กระจกเล็ก ๆสำหรับไว้ในห้องนั่งเล่น ไว้สังสรรค์ และด้านเครื่องครัว  เนื่องจากมองว่า กลุ่มอายุประมาณ 30-40 ปีบวก มีการใช้ชีวิตอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น ผลิตภัณฑ์แบบHome Use จึงน่าจะเหมาะสำหรับใช้ได้ และจะเน้นเจาะกลุ่มโรงแรมเพิ่มขึ้นสำหรับการลุยตลาดเครื่องครัว

ขณะเดียวกัน ใน 2563 ตลาดในประเทศยังเตรียมนำกลยุทธ์ที่มุ่งทำการสื่อสารกับผู้บริโภคเพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดการยอมรับและจดจำแบรนด์  ส่วนในต่างประเทศนั้นประเทศที่ส่งออกไปแล้วปัจจุบัน ได้แก่  สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนามและ อินโดนีเซีย ซึ่งยอมรับและเชื่อถือในการเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพดีของคนไทย  อย่างไรก็ดีจะไปเปิดตลาดในศรีลังกา บังกลาเทศ ฟิลิปปินส์และออสเตรเลีย  เนื่องจากเล็งเห็นว่า เป็นตลาดใหญ่ที่นำเข้าแบรนด์ต่างประเทศหมด ไม่มีแบรนด์โลคัลหรือแบรนด์ผู้ประกอบการสัญชาติตัวเอง  มีเพียงแบรนด์จากจีนที่เป็นคู่แข่ง 

อย่างไรก็ตามดีลัคกี้ สตาร์ พร้อมจะไปแข่งขัน ด้วยเน้น เรื่องของ “คุณภาพ” ที่ได้มาตรฐาน  ซึ่งในการส่งออกจะมีการพัฒนาเป็นไปตามมาตรฐานของแต่ละประเทศ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ยืดหยุ่นตอบโจทย์ลูกค้าได้  โดยยึดคุณภาพเป็นมาตรฐานตลอดไม่ว่าจะเป็นรุ่นแบบไหนและใช้งานแบบใดก็ตาม และเพื่อตอกย้ำความเป็นแบรนด์ดาวเด่น ที่มีคุณภาพ ลัคกี้ สตาร์ได้เลือก "ซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง" มาเป็นพรีเซนเตอร์  มาจากเป็นบุคลที่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เข้าถึงได้ทุกเพศ ทุกวัย สอดพ้องกับความต้องการให้สินค้าและแบรนด์ ลัคกี้ สตาร์ เป็นที่รู้จักกันโดยแพร่หลาย

“หากจะประชาสัมพันธ์ ผลิตภัณฑ์เป็นตู้แช่อย่างเดียว ดูไม่น่าสนใจ และตู้แช่ใช้ได้กับทุกเพศทุกวัย  จึงเลือกคุณ “ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง” ส่วนหนึ่งนั้นมีความสนิทสนมส่วนตัว ขณะเดียวกัน ความเป็นแฟมิลี่แมนของคุณซิโก้ที่ช่วยสะท้อนประโยชน์ตู้แช่ที่สามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัย” นายมิญช์กล่าว

ทางด้านซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เปิดเผยถึงการได้รับเลือกเป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ลัคกี้ว่า  รู้สึกดีใจและต้องขอบคุณมิญช์ เพราะรู้จักกันมานานมากกว่า 10 ปีก่อนราวปี 2552 ตั้งแต่สมัยมิญช์เป็นนักเตะ และตนเป็นโค้ชอยู่ที่ชลบุรี เอฟซี ต่อมาตนไปทำงานเป็นโค้ชที่เวียดนาม แต่ยังมีการติดต่อและติดตามข่าวกันมาอย่างต่อเนื่อง  กระทั่งมิญช์เรียนจบการศึกษาและมารับช่วงต่อธุรกิจจากคุณพ่อและมีวันหนึ่งบอกว่า อยากให้มาเป็นพรีเซนเตอร์ โดยมีเป้าหมายอยากให้คนรู้จักสินค้า ไว้วางใจ

ตนจึงถามว่า แบรนด์อะไร ซึ่งเมื่อรู้ชื่อ “LUCKY STAR”  ก็ชอบ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นเรื่องของดวงดาว ความสำเร็จและเก่งอย่างเดียวไม่ได้ต้องมีโชคช่วยด้วย คล้องจองกับการที่ตนมีความโชคดีได้มีโอกาสมาติดทีมชาติ เหมือนได้มาสู่ดวงดาว ประกอบกับเสื้อที่ใส่ก็เป็น LUCKY  NUMBER ด้วย  จึงอยากช่วยเขา ให้คนรับรู้สินค้าและหวังว่า จะเป็นดวงดาวที่สดใสในอนาคต จึงตอบรับและยินดีช่วยเขาอย่างเต็มที่

“เราอยากให้แบรนด์ไทยไปโตกว่าที่เมืองไทย  คุณภาพของไทยดีอยู่แล้ว คุณพ่อของมิญช์ทำมานาน  สินค้าดี มีคุณภาพ เรามีโอกาสได้ช่วยให้คนรับรู้ ไม่มากก็น้อย ก็ยินดี” 

9 มกราคม 2563


บริษัท มีเดีย เน็ทเวิร์ค จำกัด
138, 140 ซอยอนามัย ถนนศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250
MEDIA NETWORK Co.,Ltd
138, 140 Soi Anamai Srinakarin Road Suanluang Suanluang Bangkok 10250
Tel. 02 721 4417 Fax. 02 721 5516
E-mail : phototechthailand@gmail.com


ติดต่อโฆษณาหรือข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 02 721 4417 , 097 921 2929 คุณขวัญ

แฟนเพจ Phototech Magazine


ออกแบบโดย touronthai