โซนี่ ปล่อยหมัดเด็ดส่งท้ายปีในงาน Photo Fair 2017 ชูแนวคิด Power Of Imaging เปิดตัวกล้องระดับเรือธงรุ่น “α7R III“
บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด ตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดกล้องดิจิตอล อย่างต่อเนื่อง พร้อมบุกตลาดกล้องส่งท้ายปีเต็มสูบ ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์กล้องรุ่นใหม่ล่าสุด “α7R III” (อ่าน - อัลฟ่า เซเว่น อาร์ มาร์ค ทรี) ภายใต้แนวคิด “Power of Imaging” สู่พลังสร้างสรรค์ไม่สิ้นสุด ด้วยสุดยอดเทคโนโลยีเหนือระดับที่พัฒนาขึ้นล่าสุดมากมาย อาทิ เซ็นเซอร์ Full Frame ที่มาพร้อมชิปประมวลผลภาพ BIONZ X และหน่วยประมวลผล LSI ที่พัฒนาล่าสุด ที่จะทำให้การประมวลผลภาพรวดเร็วกว่าเดิมถึง 1.8 เท่า และถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุด 10 ภาพต่อวินาที รวมถึงเทคโนโลยีในการป้องกันภาพสั่นไหว Steady Shot แบบ 5 แกน สามารถกันสั่นได้ถึง 5.5 Stop เป็นครั้งแรกบนเซ็นเซอร์แบบฟูลเฟรม เพื่อตอบโจทย์การถ่ายภาพของนักถ่ายภาพระดับมืออาชีพได้อย่างยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น และเลนส์ G รุ่นใหม่ FE 24-105mm F4 G OSS ที่มีขนาดเล็ก พร้อมพลังซูมที่เหนือชั้น รวมทั้งจัดแสดงกล้องรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งวางจำหน่ายในตลาด อาทิ กล้อง Cyber-shot RX0, กล้องคอมแพ็คท์ระดับพรีเมี่ยมรุ่น RX 10M4 กล้องแฮนดีแคม รุ่น FDR-AX700 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีสุดล้ำ ให้ผู้สนใจได้ทดลองประสิทธิภาพในโซนถ่ายภาพต่าง ๆ อย่างจุใจ รวมทั้งเลือกซื้อกล้องโซนี่และอุปกรณ์ในราคาพิเศษ พร้อมรับของสมนาคุณ และโปรโมชั่นสุดเร้าใจภายในงาน Photo Fair 2017 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 3 ธันวาคม ศกนี้ ที่ BITEC บางนา
มร. ยูโซะ ชิบะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เปิดเผยว่า “กระแสความนิยมกล้องดิจิตอลในประเทศไทยยังคงมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มกล้องฟูลเฟรม มิลเรอร์เลส และพรีเมี่ยมคอมแพ็คท์ ซึ่งโซนี่มีความแข็งแกร่งในตลาดกลุ่มนี้อย่างมาก โดยเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดกล้อง ฟูลเฟรม มิเรอร์เลส และยังผู้ผลิตเซ็นเซอร์อันดับ 1 ด้วยการครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50% ในปีที่ผ่านมา เนื่องจากโซนี่ไม่เคยหยุดนิ่งในการคิดค้น และพัฒนาลูกเล่นเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้มีความก้าวล้ำอยู่เสมอ พร้อมทั้งรับฟังเสียงสะท้อนจากผู้ใช้เพื่อนำมาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองทุกความต้องการใช้งานด้วยคุณภาพและโซลูชั่นส์ใหม่ ๆ ที่เป็นเลิศได้อย่างตรงใจผู้รักการถ่ายภาพยิ่งขึ้น โดยโซนี่มั่นใจว่าการเปิดตัวกล้อง α7R III จะช่วยเสริมศักยภาพตลาดกล้องฟูลเฟรมมิเรอร์เลสให้มีการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ผู้ใช้ได้รับแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในการสร้างสรรค์ผลงานภาพถ่ายด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่โซนี่ได้พัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของการถ่ายภาพทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอยิ่งขึ้น นอกจากนี้ โซนี่ยังได้แนะนำเลนส์รุ่นใหม่ล่าสุด FE 24-105mm F4 G OSS รวมถึงกล้อง RX0, กล้องไซเบอร์ช็อต RX10 M4 รวมถึงกล้องแฮนดีแคม FDR-AX700 ที่จะช่วยสริมทัพธุรกิจดิจิตอลอิมเมจจิ้งของโซนี่ให้แข็งแกร่งครองใจผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องด้วย”
กล้องอัลฟ่าฟูลเฟรมมิลเรอร์เลส α7R III
นับเป็นสุดยอดกล้องมิลเรอร์เลสฟลูเฟรมระดับเรือธงตัวใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ของกล้องมิลเรอร์เลสแบบฟลูเฟรมที่ต่อยอดมาจากความสำเร็จของกล้องรุ่น α7R II ให้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นในทุกมิติ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการใช้งานของคนรักการถ่ายภาพระดับมืออาชีพในปัจจุบันอย่างสมบูรณ์แบบ โดยจุดเด่นของ α7R III อยู่ที่เซ็นเซอร์ภาพ Back-illuminated full-frame Exmor R CMOS 35 มม. ที่มีความละเอียดสูงถึง 42.4 ล้านพิกเซล พร้อมกับชิปประมวลผลภาพ BIONZ X และหน่วยประมวลผล LSI ที่พัฒนาขึ้นล่าสุด ด้วยค่าความไวแสงสูง 100-32,000 และสามารถขยายได้ถึง 50-102,400 ช่วยให้สามารถประมวลผลภาพได้รวดเร็วกว่าเดิมถึง 1.8 เท่า และยังสามารถ
ถ่ายวิดีโอที่มีความละเอียดระดับ 4K HDR ด้วย Hybrid Log-Gamma ทำให้ภาพวิดีโอสามารถเล่นบนทีวี 4K UHD ได้เต็มขนาด ขณะเดียวกันยังสามารถถ่ายภาพวิดีโอ Full HD ได้สูงสุดที่ความเร็ว 120 เฟรมต่อวินาที และถ่ายต่อเนื่องได้สูงสุด 10 ภาพต่อวินาทีในโหมดโฟกัสเต็มรูปแบบ และ 8 ภาพต่อวินาทีเมื่อใช้ฟีเจอร์ถ่ายภาพต่อเนื่องบน Live View
ยิ่งไปกว่านั้น กล้อง α7R III ยังมาพร้อมกับระบบออโต้โฟกัสบนเซ็นเซอร์รับภาพแบบ Phase Detection 399 จุด ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ในการถึง 68% และจุดโฟกัสแบบ Contrast Detection ถึง 425 จุด ทำให้สามารถโฟกัสภาพได้อย่างแม่นยำฉับไวยิ่งขึ้น ทั้งยังมี Eye AF ที่ช่วยติดตามดวงตาแม้วัตถุกำลังเคลื่อนไหวได้แม่นยำเร็วขึ้นกว่าเดิม 2 เท่า จึงเหมาะสำหรับการถ่ายภาพ Portrait แฟชั่นในสตูดิโอและภาพแต่งงาน นอกจากนี้ ยังมีระบบป้องกันสั่นไหวแบบ 5 แกนในตัวกล้อง ที่ช่วยให้การถ่ายภาพในระยะไกลนิ่งมากขึ้น โดยสามารถกันสั่นได้ถึง 5.5 Stop พร้อมกับฟีเจอร์ Gapless on-chip lens design และโค้ตติ้งเซ็นเซอร์แบบไร้เงาสะท้อน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ยังมีโหมด Pixel Shift Multi Shooting mode ซึ่งเป็นการถ่ายภาพ 4 ภาพรวมกันโดยอาศัยเทคนิคการขยับเซ็นเซอร์ เพื่อให้แต่ละพิกเซลเก็บรายละเอียดได้ถึงขนาด 169.6 ล้านพิกเซลที่มีคุณภาพรูปดีกว่าถ่ายรูปเดียว ขณะที่ตัวกล้องมีน้ำหนักเบาเพียง 657 กรัม สามารถป้องกันละอองน้ำ และฝุ่น ส่วนด้านหลังมีจอแสดงผลแบบสัมผัสพับได้ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1.44 ล้านพิกเซล พร้อมช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ความละเอียด 3.68 ล้านพิกเซล ขนาดใหญ่ถึง 0.5 นิ้ว พร้อมการเคลือบผิวเลนส์ช่องมองแบบ T* จาก Zeiss ที่สำคัญยังมีพอร์ตเชื่อมต่อ USB 3.1 เพื่อถ่ายโอนข้อมูลแบบ Superfast และมีช่องใส่ SD Card ได้พร้อมกัน 2 ช่อง ทั้งยังมีปุ่ม Joystick เพื่อการควบคุมกล้องที่ง่ายขึ้น รวมถึงแบตเตอรี่ที่มาพร้อมความจุมากขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า เพื่อให้คนรักการถ่ายสามารถเก็บภาพความประทับใจได้จุใจมากถึง 530 ภาพต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทีเดียว พร้อมวางจำหน่ายเดือนธันวาคม ศกนี้ ในราคา 114,990 บาท
เลนส์ G รุ่น FE24-105mm F4 G OSS
เป็นนวัตกรรมเลนส์แบบ Normal Zoom รุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับการออกแบบเพื่อใช้งานครอบคลุมการใช้งานทุกประเภท แบบ One For All สามารถตอบโจทย์การถ่ายภาพแต่งงาน และแนว Portrait ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีขนาดเล็ก นักเพียง 663 กรัม แต่ให้ประสิทธิภาพการซูมที่เหนือชั้นกว่าเดิม ด้วยเลนส์มุมกว้างถึง 24 มม. พร้อมด้วยรูรับแสงคงที่ตลอดช่วงซูมที่ F4 ช่วยให้ได้ภาพถ่ายที่คมชัดยิ่งขึ้น โดยตัวเลนส์ประกอบด้วยชิ้นเลนส์ 17 ชิ้น เป็นชิ้นเลนส์พิเศษ Aspherical จำนวน 4 ชิ้น และ Extra Low Dispersion จำนวน 3 ชิ้น พร้อมเคลือบด้วยเทคโนโลยี Nano AR Coating ช่วยให้ได้ภาพคมชัดและลดความคลาดเคลื่อนของสี นอกจากนี้ ยังโดดเด่นด้วยระบบมอเตอร์ความเร็วสูง Direct Drive Super Sonic Wave (DDSSM) ที่ให้ความละเอียดสูงช่วยให้การจับภาพได้อย่างมีคุณภาพ แม่นยำ และเงียบ ทั้งยังมีระบบกันสั่นในตัว รวมถึงระบบป้องกันละอองน้ำและฝุ่นเป็นอย่างดี โดยเลนส์ G รุ่น FE 24-105mm F4 G OSS พร้อมวางจำหน่ายเดือนธันวาคม ศกนี้ ในราคา 46,990 บาท
28 พฤศจิกายน 2560