บจธ. เตรียมจัดซื้อที่ดิน 200 ไร่ ช่วยเกษตรกรโคราช ที่ได้รับผลกระทบจากรถไฟรางคู่-นโยบายทวงคืนผืนป่า
รัฐบาลโดย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เล็งเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือ พี่น้องเกษตรกรในเรื่องที่ดินทำกินมาโดยตลอด ซึ่งได้ดำเนินการผ่านโครงการของ สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. ให้ดำเนินภารกิจกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการแก้ไขปัญหาด้านที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย การป้องกันการสูญเสียสิทธิในที่ดินจากการจำนอง ขายฝาก ตลอดจนส่งเสริมการใช้ประโยชน์ในที่ดินเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยมีรองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นผู้กำกับดูแล
เมื่อวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. เปิดรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชน เกี่ยวกับร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการเพื่อการกระจายการถือครองที่ดินที่เป็นธรรม (องค์การมหาชน) พ.ศ. ..... ณ โรงแรมสีมาธานี ถนนมิตรภาพ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยมี พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน คณะทำงานด้านกฎหมายการสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชน รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม มีภาคประชาชนเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชกฤษฎีกาฯ ดังกล่าว เป็นจำนวนกว่า 300 คน
นายกุลพัชร ภูมิใจอวด
รองผู้อำนวยการปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน
นายกุลพัชร ภูมิใจอวด รองผู้อำนวยการปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน เปิดเผยว่า ปัญหาที่ดินทำกิน เป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญและถือเป็นวาระเร่งด่วนแห่งชาติ ที่ผ่านมามีเกษตรกร และผู้ยากจนจำนวนมากที่ประสบปัญหาขาดแคลนที่ดินทำกิน พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลงานของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน หรือ บจธ. ได้ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาผู้ไร้ที่ดินทำกิน จึงได้กำชับให้ บจธ. เร่งรัดดำเนินการจัดตั้งธนาคารที่ดิน หรือองค์การอื่นที่มีวัตถุประสงค์ในลักษณะทำนองเดียวกับธนาคารที่ดิน เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีภายใน 8 มิถุนายน 2563 เพื่อจะได้เป็นที่พึ่งและแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกรและผู้ยากจน ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยุทธศาสตร์ที่ 4 ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม... สนับสนุนให้ประชาชาชนมีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ยุทธศาสตร์การสร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม... สนับสนุนการจัดตั้งธนาคารที่ดิน
การดำเนินงานที่ผ่านมา บจธ. ได้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ฯ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านสังคมให้เกษตรกรผู้ยากจน มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง เพื่อให้รากฐานเข้มแข็งและยั่งยืน ถือเป็นกระบวนการสำคัญที่จะลดความเหลื่อมล้ำด้านที่ดินและสังคม เกษตรกร ผู้ยากจน ที่จะให้ บจธ. สนับสนุนจะต้องได้รับการอบรม “ศาสตร์พระราชา” เพื่อจะได้มีความรู้ความเข้าใจ และน้อมนำศาสตร์พระราชามาเป็นแนวทางประกอบอาชีพเกษตร เพื่อดำรงชีวิตได้อย่างยั่งยืน
นายกุลพัชร กล่าวต่อไปว่า ในพื้นที่ภาคอีสาน จังหวัดนครราชสีมา มีพี่น้องเกษตรกรจำนวนมากที่ประสบปัญหาขาดแคลนที่ดินทำกิน รวมไปถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งจากโครงการรถไฟรางคู่ และนโยบายทวงคืนผืนป่า เช่น ที่บ้านช่องโค หมู่ที่ 3 ตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย มีเกษตรกรกรจำนวน 63 ครัวเรือน ขาดแคลนที่ดินทำกิน ได้รวมกลุ่มกันเป็น “วิสาหกิจชุมชนไร่นาสวนผสมเกษตรกรฐานรากช่องโคพัฒนา” ได้สำรวจพื้นที่ทำกิน และได้เจอพื้นที่เป้าหมายที่จะจัดซื้อเพื่อใช้ทำกินในระยะยาวจนถึงลูกหลาน กลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ จึงขอรับการสนับสนุนจาก บจธ. เพื่อให้ บจธ. จัดซื้อที่ดิน จำนวน 200 ไร่ โดยซื้อเป็นกรรมสิทธิ์ของ บจธ. ก่อน หลังจากนั้นกลุ่มฯ ก็จะเช่า หรือเช่าซื้อจาก บจธ. เมื่อผ่อนชำระครบตามเงื่อนไขที่ บจธ. กำหนด กรรมสิทธิ์ในที่ดินผืนดังกล่าวจะถูกโอนเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมของชุมชน ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปแบบของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน หรือสหกรณ์การเกษตร ที่เกษตรกรจะรวมตัวกันจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นหลักประกันว่าที่ดินทำกินจะอยู่ในมือของเกษตรกรตลอดไป สำหรับแนวทางการสร้างความมั่นคง ยั่งยืน ในอาชีพให้เกษตรกร ได้นำแนวทางของ
“โครงการบริหารจัดการที่ดินแบบครบวงจร” ของ บจธ. มาดำเนินการ คือให้การสนับสนุนเกษตรกรแบบครบวงจร ตั้งแต่การจัดซื้อที่ดิน การพัฒนาที่ดิน การผลิตและการตลาด โดยจะทำงานร่วมกับภาคีต่างๆ เช่น สถาบันการศึกษาภาคประชาสังคม ภาคประชาชน และหน่วยงานรัฐต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
สำหรับความคืบหน้าในการจัดซื้อที่ดิน นายกุลพัชร กล่าวว่า ขณะนี้ บจธ. และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ฯ อยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองกับเจ้าของที่ดิน เพื่อจะได้ทำการจัดซื้อที่ดินให้ได้ราคาที่เหมาะสม จะได้ไม่เป็นภาระในการผ่อนชำระแก่เกษตรกรมากจนเกินไป คาดว่าจะสรุปผลได้ในเร็ว ๆ นี้
3 กุมภาพันธ์ 2563