ที่ดินทำกินต้องไปพร้อมความรู้ บจธ. จัดหลักสูตรเข้มข้น อบรมสมาชิก 3 วิสาหกิจชุมชน ใน จ.เชียงราย ทั้งกสิกรรมธรรมชาติและเกษตรทฤษฎีใหม่
ความพยายามแก้ไขปัญหาการเกษตรกรและคนยากจนที่ขาดที่ดินทำกินหรือมีที่ดินทำกินแต่ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ เป็นเรื่องที่รัฐบาลจัดให้เป็นวาระเร่งด่วนแห่งชาติ โดยนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มอบหมายให้ พลเอกประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ดำเนินการผ่านโครงการของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการแก้ไขปัญหาด้านที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย การป้องกันการสูญเสียสิทธิในที่ดินจากการจำนอง ขายฝาก นอกจากจัดซื้อที่ดินทำกินที่เกษตรกรรวมกลุ่มกันเลือกพื้นที่เหมาะสมแล้ว บจธ. ยังสนับสนุนงบประมาณพัฒนาสาธารณูปโภค และเพิ่มศักยภาพให้เกษตรกรด้วยการกิจกรรมส่งเสริมความรู้ ส่งเสริมอาชีพ และติดตามการบริหารจัดการที่ดินเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกพื้นที่อีก
เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2563 สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. ได้จัดกิจกรรมอบรม “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่” ณ วัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์เชียงราย ตำบลดอยฮาง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยมี พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรม โดยมีเกษตรกรที่ได้รับความช่วยเหลือจาก บจธ. ในจังหวัดเชียงราย 3 ชุมชน คือ วิสาหกิจชุมชนเชียงรายอุ่นไอรักษ์ วิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชา วัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์เชียงราย และวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรมยั่งยืน โยนกนคร (บ้านสันต้นเปา) มีผู้เข้าร่วมการอบรมประมาณ 150 คน
พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานกรรมการ สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน(องค์การมหาชน) หรือ บจธ. กล่าวว่า การอบรมหลักสูตรปรัชญาศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ รวมทั้งการสร้างภูมิคุ้มกันทางใจ เป็นการพัฒนาศักยภาพของสมาชิกวิสาหกิจชุมชนทุกแห่งที่ บจธ.สนับสนุนที่ดินทำกิน ถือเป็นหัวใจสำคัญในการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เกิดความคุ้มค่า ดังนั้นสมาชิกทุกคนที่ได้รับการสนับสนุนที่ดินทำกินจาก บจธ. จำเป็นต้องผ่านการอบรมและฝึกปฏิบัติ นำไปใช้ได้จริงในพื้นที่ ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ และแบ่งปันกันในชุมชน
สำหรับพื้นที่ จ.เชียงราย ที่บจธ. ได้ดำเนินการจัดซื้อที่ดินและทำสัญญาเช่าพร้อมสนับสนุนงบประมาณพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาอาชีพให้แก่เกษตรกรไปแล้ว 3 ชุมชน คือ 1) วิสาหกิจชุมชนเชียงรายอุ่นไอรักษ์ ตำบลริมกก อำเภอเมือง จำนวน 68 ไร่ สมาชิก 65 ครัวเรือน เพื่อพัฒนาพื้นที่สำหรับปลูกไม้ยืนต้นและผักอินทรีย์ปลอดสารพิษ เช่น ผักเชียงดา ฟักทอง ถั่วฝักยาว ถั่วลิสง ผักสลัด ฯลฯ ไว้บริโภคในแต่ละครัวเรือน เพาะเลี้ยงจิ้งหรีดไว้ส่งขายเป็นรายได้เสริม 2) วิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชา วัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์เชียงราย ตำบลดอยฮาง อำเภอเมือง บจธ. เนื้อที่ประมาณ 38 ไร่ (โครงการที่ 1) จำนวนสมาชิก 28 ครัวเรือน เพื่อใช้เป็นที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย สำหรับโครงการที่ 2 บจธ. ได้จัดซื้อที่ดินและทำสัญญาเช่าให้กับสมาชิกวิสากิจชุมชนฯ จำนวน 32 ครัวเรือน เนื้อที่ประมาณ 46 ไร่เรียบร้อยแล้ว 3) กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรมยั่งยืน โยนกนคร (บ้านสันต้นเปา) ตำบลโยนก อำเภอเชียงแสน บจธ. ได้จัดซื้อที่ดินจำนวน 420 ไร่ จัดสรรให้แก่สมาชิกกลุ่ม จำนวน 100 ครัวเรือน เกษตรกรที่จะทำสัญญาเช่าในช่วง 1-2 ปีแรก จากนั้นจึงเป็นการเช่าซื้อและผ่อนชำระกับบจธ.ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เป็นระยะเวลา 30 ปี
10 กันยายน 2563