เอปสันขยายฐานลูกค้าเลเซอร์โปรเจคเตอร์ สู่ธุรกิจหนังกลางแปลงไทย
15 กันยายน 2563 – เอปสันชิงจังหวะงานอีเวนท์หวนกลับมาจัดอีกครั้ง ส่งเลเซอร์โปรเจคเตอร์เจาะกลุ่มธุรกิจฉายหนังกลางแปลงที่เริ่มลงทุนอัพเกรดเครื่องฉายและมองหาความคุ้มค่าที่ดีกว่า
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ทันทีที่รัฐบาลประกาศคลายล็อคดาวน์ ธุรกิจกลับมาเคลื่อนไหว งานอีเวนท์ต่างๆ รวมถึงการจัดดูหนังกลางแปลงที่เคยได้รับผลกระทบไปนานเกือบ 6 เดือนก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจฉายหนังกลางแปลงที่มีอยู่กว่า 3,000 รายทั่วประเทศ ก็เป็นอีกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของผลิตภัณฑ์เลเซอร์โปรเจคเตอร์ของเอปสัน และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจนี้ก็ได้เปลี่ยนผ่านจากการฉายฟิล์มที่เป็นระบบอนาล็อกมาสู่ระบบดิจิทัลแล้ว ผู้ประกอบการกว่า 95% ได้หันมาใช้โปรเจคเตอร์ในการทำธุรกิจ เพราะนอกจากหนังที่จะนำมาฉายจะไม่ได้อยู่ในรูปแบบฟิล์ม 35 มม. อีกต่อไป แต่เป็นไฟล์ดิจิทัลแทน เรื่องของคุณภาพในการฉายหนังให้ได้เต็มอรรถรส ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้โปรเจคเตอร์ประสิทธิภาพสูงกลายเป็นที่ต้องการมากขึ้น”
“ด้วยเหตุปัจจัยดังกล่าว ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา โปรเจคเตอร์ของเอปสันจึงได้รับความไว้วางใจจากวงการธุรกิจหนังกลางแปลง ให้มาแทนที่การฉายหนังระบบฟิล์มแบบเดิมๆ อย่างไรก็ตาม เครื่องโปรเจคเตอร์โดยส่วนมากจะเป็นรุ่นความสว่างไม่เกิน 10,000 ลูเมน และเป็นแบบใช้หลอดไฟที่มีอายุการใช้งานจำกัด ทางบริษัทฯ จึงได้นำเสนอเลเซอร์โปรเจคเตอร์เข้ามาใช้ทดแทน ซึ่งมีตั้งแต่รุ่นที่มีระดับความสว่าง 6,000-30,000 ลูเมน สำหรับจอหนังกลางแปลงขนาดประมาณ 10-30 เมตร มีระดับความละเอียดที่หลากหลาย ทั้ง SXGA+, WUXGA และ 4K แท้ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถฉายภาพที่มีความสว่างคมชัด ความละเอียดสูง และประหยัดค่าบำรุงรักษาและค่าอะไหล่ได้มากกว่าในระยะยาว เนื่องจากเลเซอร์โปรเจคเตอร์ของเอปสันมีอายุการใช้งานยาวนาน 20,000 ชั่วโมง สามารถเปิดใช้งานต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง โดยที่คุณภาพของภาพไม่เสื่อมลงแม้แต่น้อย ให้ภาพที่มีสีสันสดใสคมชัดได้ทันทีที่เปิดเครื่องโดยไม่ต้องเสียเวลาวอร์มเครื่อง นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ของเอปสันยังมีรุ่นที่เป็นโปรเจคเตอร์ระยะฉายสั้นพิเศษ สามารถฉายภาพขนาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องวางเครื่องห่างไกลจากจอหนัง ช่วยลดปัญหาการจัดงานในพื้นที่ที่จำกัด”
“อย่างไรก็ตาม เลเซอร์โปรเจคเตอร์ยังถือว่าเป็นเรื่องใหม่ในธุรกิจฉายหนังกลางแปลง ซึ่งเอปสันร่วมกับพันธมิตรตัวแทนจำหน่ายพยายามให้ความรู้และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการหันมาสนใจในเทคโนโลยีนี้ สิ่งที่ผู้ประกอบการในธุรกิจนี้ต้องการคือ ความคุ้มค่าในการลงทุน (Total Cost of Ownership) ที่ดี จึงต้องมองหาโปรเจคเตอร์ที่ราคาเหมาะสม มีอายุการใช้งานยาวนาน ฉายภาพที่คมชัดสวยสด เพื่อสร้างความประทับใจให้กับคนดู แสงจากเครื่องต้องสู้กับไฟสว่างโดยรอบได้ และที่สำคัญคือต้องมีบริการหลังการขายที่ให้คำปรึกษาและตอบปัญหาได้ทั้งเรื่องการใช้งาน จนถึงอะไหล่และการซ่อมแซม รวมถึงต้องมีการรับประกันทั้งตัวเครื่องและชิ้นส่วนต่างๆ ซึ่งบริษัทฯ เชื่อว่าโอกาสทางการตลาดในธุรกิจนี้ยังเปิดกว้างให้กับเลเซอร์โปรเจคเตอร์ของเอปสันเป็นอย่างมาก” นายยรรยง กล่าว
ด้านนายเตชธรรม เลิศลบ หรือ เอนก เลิฟซินีม่า ตัวแทนจำหน่ายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ในระบบหนังกลางแปลงกล่าวว่า “ผู้ประกอบการเกือบทั้งหมดในปัจจุบันหันมาใช้โปรเจคเตอร์ในการฉายหนังกลางแปลง ซึ่งเริ่มแรก ส่วนใหญ่จะลงทุนกับเครื่องมือสองเพราะต้องการประหยัดต้นทุน แต่ต้องประสบปัญหาในเรื่องของคุณภาพของภาพ และใช้งานได้ระยะสั้นๆ ก็ต้องซ่อมหรือซื้อเครื่องใหม่ ทั้งยังไม่มีประกันและบริการหลังการขายคอยดูแล จึงมีผู้ประกอบการ ไม่น้อยที่ตัดสินใจเริ่มลงทุนกับโปรเจคเตอร์จากค่ายแบรนด์ดังที่มีมาตรฐาน และเอปสันเป็นหนึ่งในแบรนด์ยอดนิยมที่มีชื่อเสียงในเรื่องความคุ้มค่า เห็นได้จากเลเซอร์โปรเจคเตอร์ที่กล้ารับประกันการใช้งานนานถึง 20,000 ชั่วโมง นอกจากนี้ ในงานมหรสพทุกงานจะมีการจัดแสงสว่างหลากสีสันในทุกพื้นที่ ซึ่งถ้าใช้โปรเจคเตอร์มือสองที่ให้แสงสว่างไม่ได้เต็มที่ หนังที่ฉายก็จะถูกรบกวน นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่ใช้โปรเจคเตอร์ที่ทันสมัย อย่างเลเซอร์โปรเจคเตอร์ จะได้รับความนิยมจากผู้จ้างมากขึ้น เพราะเป็นเหมือนการรับประกันคุณภาพของหนังที่ฉายว่าภาพสวย คมชัด ดูเต็มอรรถรส” “ธุรกิจฉายหนังกลางแปลงยังเป็นธุรกิจที่มีการเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ช่วงออกพรรษายาวไปจนถึงหลังวันสงกรานต์ แต่เนื่องจากในปีนี้ ได้รับผลกระทบหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเพิ่งจะเริ่มฟื้นตัว หลัง จากที่รัฐบาลประกาศคลายล็อกดาวน์ ผู้ประกอบการก็เริ่มกลับมาลงทุนอัพเกรดโปรเจคเตอร์ที่ใช้อยู่ เพื่อให้ทันรับงานในช่วงเดือนตุลาคมนี้ และเลเซอร์โปรเจคเตอร์ก็เป็นทางเลือกที่ผู้ประกอบการหลายรายให้ความสนใจอย่างมาก”
ล่าสุด เอปสันได้ให้การสนับสนุนกิจกรรมไดร์ฟอินดูหนังกลางแปลงวัดลานตากฟ้า ซึ่งเป็นไดร์ฟอินงานวัดครั้งแรกของเมืองไทย จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 16 กันยายนนี้ โดยผู้สนใจสามารถขับรถมาจอดดูหนังกลางแปลงจอยักษ์ขนาด 16 เมตร ที่ฉายหนังด้วยเครื่องเลเซอร์โปรเจคเตอร์รุ่น Epson EB-L20000UNL ของเอปสัน ซึ่งมีความสว่างถึง 20,000 ลูเมน และความละเอียดสูงกว่า Full HD ในระดับ WUXGA สามารถฉายภาพขนาดใหญ่ที่คมชัดทุกรายละเอียด สมจริง มีชีวิตชีวา
“กิจกรรมดูหนังกลางแปลงวัดลานตากฟ้า เป็นงานประเพณีประจำอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงวันที่ 16 กันยายน เพื่อรำลึกถึงหลวงพ่อพระมหาฟัก สุกฺกธมฺโม อดีตเจ้าอาวาสวัดลานตากฟ้าแต่ในปีนี้ ได้เพิ่มการจัดไดร์ฟอินดูหนังกลางแปลง ซึ่งเป็นรูปแบบการจัดงานอีเวนท์สไตล์นิวนอร์มอล ชมความบันเทิงแบบเว้นระยะห่างทางสังคม จัดในลานโล่งรองรับรถได้มากกว่า 200 คัน โดยเอปสันมองว่าการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมนี้ เป็นโอกาสดีที่จะได้แสดงศักยภาพของเลเซอร์โปรเจคเตอร์เอปสันให้กับเหล่าผู้ประกอบการธุรกิจฉายหนังกลางแปลงจำนวนมาก และได้เปิดประสบการณ์ใหม่ในการรับชมหนังกลางแปลงที่เป็นกิจกรรมรื่นเริงที่อยู่คู่สังคมไทยมานานหลายทศวรรษ” นายยรรยง กล่าวทิ้งท้าย
ปัจจุบัน เอปสันมีเลเซอร์โปรเจคเตอร์ในตลาดมากกว่า 20 รุ่น เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในกลุ่มธุรกิจอีเวนท์และงานจัดแสดงหลากหลายรูปแบบ โดยบริษัทฯ มุ่งเป้าที่จะเป็นผู้นำในการสร้างมาตรฐานใหม่ของการแสดงภาพและนำเสนอคอนเทนท์ด้วยเทคโนโลยีที่โดดเด่น นอกจากนี้ ทางเอปสันยังมีโปรเจคเตอร์รวมกว่า 70 รุ่น เพื่อตอบโจทย์การใช้งานด้านการนำเสนอภาพที่แตกต่างกันในองค์กรธุรกิจ การศึกษา สื่อโฆษณาดิจิทัล ฯลฯ
16 กันยายน 2563