อลงกรณ์ฟาร์มแอนด์รีสอร์ท ที่พักและศูนย์การเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชา
ในชีวิตทั่วไปของหนุ่มสาวชาวกรุงที่ต้องเผชิญในทุกๆวัน คงหนีไม่พ้นตึกรามบ้านช่องที่สูงเสียดฟ้า มลพิษจากรถที่สุดแสนจะติดขัด และการที่ต้องเร่งรีบไปทำงานในแต่ละวัน หากเราต้องใช้ชีวิตหนักๆแบบนี้ทุกวัน ร่างกายของเราอาจจะต้านทานไม่ไหวและล้มป่วยลงในวันหนึ่ง การพักผ่อนถือเป็นการผ่อนคลายที่ดีที่สุดและง่ายที่สุด แต่จะว่าไปการที่เราต้องการจะหลีกหนีมลพิษต่างๆ สำหรับบางคนคงคิดว่าต้องไปจังหวัดไกลๆ แต่!! แท้จริงแล้วใกล้แค่เอื้อม
วันนี้เราจะพาทุกท่านไปเยี่ยมชม อลงกรณ์ฟาร์ม แอนด์ รีสอร์ทที่เพิ่งให้เข้าพักได้เพียงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แน่นอนครับว่าที่พักนั้นจะต้องสะอาดมากๆ ที่พักแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพเมืองสวรรค์ของเราสักเท่าไหร่ สามารถเดินทางโดยรถยนต์เพียงแค่ 2ชั่วโมงเท่านั้น โดยที่พักแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ ตำบลสองพี่น้อง จังหวัดเพชรบุรีนั่นเองครับ
พื้นที่ของตัวรีสอร์ทจะมีมากกว่า 90ไร่ แบ่งออกเป็นที่พักและศูนย์เรียนรู้ศาสตร์ของพระราชา แน่นอนครับหากพูดถึงศาสตร์ของพระราชา ทุกท่านก็อาจจะนึกถึงเศรษฐกิจพอเพียง ใช้เงินอย่างไรให้ไม่เดือดร้อนตนเองและผู้อื่น แต่แท้จริงแล้วศาสตร์ของพระราชานั้นมีมากมายกว่านั้น ที่นี่จะมีฐานการเรียนรู้ให้เราได้เก็บเกี่ยวความรู้ แล้วสามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน อาทิเช่น เกษตรยั่งยืน การพึ่งพาตนเองจากการทำการเกษตร โดยนายอลงกรณ์กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะมาเป็นรีสอร์ทนี้ พื้นที่กว่า 90ไร่นี้เป็นไร่สับปะรด จะหาต้นไม้ใหญ่นี่ก็ค่อนข้างยาก เพราะพื้นที่จะมีความแห้งแล้งมาก ผู้คนรอบข้างต่างคิดว่าปลูกอะไรก็ไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่ดี แต่คุณอลงกรณ์ได้เลือกที่จะเดินรอยตามพระราชา เริ่มขุดบ่อน้ำ เพราะในหลวงรัชการที่ ๙ ท่านเคยตรัสว่า “ที่ใดมีน้ำที่นั่นมีชีวิต” หลังจากที่ขุดบ่อน้ำ สภาพดินก็เริ่มเปลี่ยนไป และสามารถปลูกต้นไม้จนทำให้ตัวรีสอร์ททั้งหมดร่มรื่นด้วยร่มเงาของต้นไม้นั่นเอง
นอกจากนี้นายอลงกรณ์ ยังเล่าถึงความเป็นมาของการสร้าง อลงกรณ์ฟาร์ม แอนด์ รีสอร์ท(Alongkorn Farm and Resort) ให้ฟังอีกว่า เดิมต้องการสร้างรีสอร์ทเล็กๆทำธุรกิจเพื่อสังคม หวังเพียงแค่เลี้ยงพนักงานได้ เป็นศูนย์แห่งการเรียนรู้ เป็นแหล่งพักผ่อนธรรมชาติ หรือ รีสอร์ทสีเขียว ขณะเดียวกันก็วางแนวทางที่จะทำให้เป็นรีสอร์ทแห่งการเรียนรู้วันข้างหน้าเพื่อให้เป็นยุคของการแบ่งปัน เราพยายามแบ่งปันความสุข ความรู้ และสิ่งที่เป็นองค์ความรู้สำคัญ คือ “ศาสตร์พระราชา” ที่ต้องการถ่ายทอดให้กับทุกคนที่สนใจ
ส่วนที่พักของอลงกรณ์ฟาร์มนั้น มีให้เลือก 3แบบ 3สไตล์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยว ได้แก่
- บ้านต้นไม้ โดยบ้านต้นไม้จะเป็นบ้านที่ยกสูงจากตัวพื้นดิน แม้จะต้องขึ้นบันไดสูงหน่อย แต่วิว และบรรยากาศ รับรองว่าจะถูกใจทุกท่านแน่ๆเลยล่ะครับ ถึงไม้จะอยู่สูงห่างจากพื้นดิน แต่สิ่งอำนวยความสะดวกบอกเลยว่าครบครัน
ณ ตอนนี้บ้านต้นไม้จะมีทั้งหมด 9 หลัง ราคาเริ่มต้นต่อคืนนั้นเพียง 1,200 บาท
2. บ้านฮอบบิท บ้านสไตล์นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่อง ฮอบบิท เป็นบ้านที่มีดีไซน์นี่สวย และแปลกตา เหมาะสำหรับการถ่ายรูปเช็คอินเป็นอย่างยิ่ง โดยบรรยากาศรอบๆจะเป็นพื้นที่โล่งเตียน เขียวชอุ่มของไม้นานาพันธุ์กว่า 50สายพันธุ์
3. บ้านสไตล์สุดท้ายที่จะพาทุกท่านไปเยี่ยมชมนั่นก็คือ บ้านสไตล์ลอฟท์ ซึ่งจะมีอยู่ทั้งหมด 29ห้อง พักได้ตั้งแต่ 2คน จนกระทั่ง 20-30 คน ก็มีห้องพักสไตล์ลอฟท์ห้องใหญ่ไว้บริการ โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 1,500 – 2,500 บาท
อีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดหากมาถึงแก่งกระจานแล้ว นั่นก็คือการล่องเรือยางไปตามลำน้ำเพชรที่ใสสะอาด ดูธรรมชาติ และทักทายผู้คนตลอดสองข้างทาง ท่านที่พักที่อลงกรณ์ฟาร์ม สามารถติดต่อกับทางรีสอร์ทได้เลย หรือท่านใดอยากเดินทางไปชมหมอกที่จุดชมวิวพะเนินทุ่ง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ก็สามารถติดต่อรถรับส่ง จากรีสอร์ทได้เช่นกัน
อลงกรณ์ฟาร์ม แอนด์ รีสอร์ท ถือว่า เป็นสถานที่พักผ่อนอีกแห่งที่หลายคนรักธรรมชาติไม่ควรพลาด!! สามารถติดต่อจองห้องพักได้ที่เบอร์โทร.091-701-0000 หรือเว็บไซต์ www.alongkornfarm.com
26 มกราคม 2561