"ลุงป้อม"ลุย เชียงราย มอบที่ดินทำกินเป็นของขวัญปีใหม่
“บิ๊กป้อม” ลงพื้นที่.เชียงราย มอบสิทธิในที่ดิน เป็นของขวัญปีใหม่จากใจรัฐบาล ด้านบจธ.เผยผลงาน 4 ปี 59 – 63 ช่วยเหลือเกษตรกรมอบความสุขจำนวน 4,134 ราย เนื้อที่ประมาณ 5,090 ไร่ ประชาชนร่วมงานนับพันคน
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 23 ธันวาคม 2563 พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี “มอบสิทธิในที่ดิน : ของขวัญปีใหม่จากใจ บจธ. อย่างเป็นทางการ โดยพิธีมอบสิทธิในที่ดินตามโครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน ของ สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) และคืนโฉนดให้กับสมาชิกเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ของขวัญปีใหม่จากใจ กฟก. จัดขึ้น ณ วิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชา วัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์ ตำบลดอยฮาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย โดยมีเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการทั้งที่ได้รับสิทธิในที่ดินแล้ว และที่อยู่ระหว่างขอความช่วยเหลือประมาณ 1,000 คน โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศีรวรขาน ประธานกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดเชียงรายกล่าวรายงานและให้การต้อนรับ
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. เป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินภารกิจกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจนในการแก้ไขปัญหาด้านที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย การป้องกันการสูญเสียสิทธิในที่ดินจากการจำนอง ขายฝาก ตลอดจนส่งเสริมการใช้ประโยชน์ในที่ดินเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โครงการตามภารกิจของ บจธ. ทุกโครงการ จะน้อมนำแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่อง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ มาเป็นหลักในการพัฒนาที่ดินในโครงการด้วย เพื่อจะได้รักษาสิทธิในที่ดินทำกินที่รัฐบาลมอบให้ในวันนี้ ไว้ให้ลูกหลานต่อไป
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน กล่าวว่า จากปัญหาความเหลื่อมล้ำในที่ดินทํากิน ที่อยู่อาศัย และ ความยากจน ประชาชนที่ไม่มีที่ดินทํากิน และไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง รวมถึง ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ผู้ประกอบการจํานวนมากปิดกิจการ ทําให้ประชาชนไม่มีงานทํา และขาดรายได้ในการดํารงชีพ รัฐบาลจึงได้มอบนโยบายให้ บจธ. เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหนึ่ง ในการแก้ปัญหาดังกล่าว ในการช่วยเหลือประชาชนให้มีที่ดินทํากิน และมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยต้องเร่งกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน รวมทั้งป้องกันและแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิในที่ดิน จากการจํานอง การขายฝาก และ การถูกบังคับคดี ซึ่งจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ประชาชนจํานวนมากได้รับผลกระทบ หลายบริษัทห้างร้านเลิกจ้างพนักงาน หรือโรงงานปิดตัวลง ผู้คนเดินทางกลับภูมิลำเนาไม่มีอาชีพรองรับ
บจธ. ต้องให้ความช่วยเหลือโดยได้น้อมนําหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ สู่การปฏิบัติเพื่อพัฒนาให้เกิดความยั่งยืนในทุกพื้นที่ ด้วยการบูรณาการร่วมกับหน่วยงาน ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน จนนำมาสู่ความสำเร็จ ในการดำเนินการภายใต้โครงการตามมติคณะรัฐมนตรี จำนวน 4 โครงการ โดยสรุปภาพรวม ปี พ.ศ. 2559 – 2563 มีจำนวนเกษตรกรที่ได้รับความช่วยเหลือ จำนวนทั้งหมด 4,134 ราย จำนวนเนื้อที่ประมาณ 5,090 ไร่ เพื่อนำความสุขมาให้แก่เกษตรกร เป็นของขวัญปีใหม่ 2564 ที่ใกล้จะถึงนี้ บจธ. จึงได้จัดพิธี “มอบสิทธิในที่ดิน : ของขวัญปีใหม่จากใจ บจธ. และคืนโฉนดให้กับเกษตรกร สมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ของขวัญปีใหม่จากใจ กฟก.” เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเกษตรกร ผู้ยากจน และพี่น้องที่ว่างงาน มอบสิทธิในที่ดิน เป็นขวัญให้แก่ทุกคน ได้มีอาชีพ สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน และเพื่อให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน
ขณะนี้ บจธ. ได้อยู่ในระหว่างเสนอร่างกฎหมายในการจัดตั้งธนาคารที่ดิน หรือองค์การอื่นที่มีวัตถุประสงค์ลักษณะทำนองเดียวกันกับธนาคารที่ดิน อันจะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนและรัฐบาล ในการที่เป็นองค์กรที่ช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน ให้มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง แก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิในที่ดิน ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านที่ดิน ส่งผลให้เกิดการสร้างโอกาส และความเสมอภาคทางสังคม ซึ่งขณะนี้ บจธ. อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็น 7 พื้นที่ ใน 4 ภาค ทั่วประเทศ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จ และเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ภายในเดือนมกราคม 2564
นายกุลพัชร ภูมิใจอวด รองผู้อำนวยการปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนายการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. เปิดเผยว่า ในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา (พ.ศ.2559 – 2563) บจธ. ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้เกษตรกรไปทั้งหมด 4,134 ราย จำนวนเนื้อที่ประมาณ 5,090 ไร่ โดยผ่านการดำเนินงานของ บจธ. ใน 4 โครงการตามมติ ครม. คือ
1. โครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน เป็นการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกร ที่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ให้มีที่ดินทำกินและได้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างยั่งยืน โดยกลุ่มต้องจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน หรือกลุ่มสหกรณ์ และมองหาที่ดินที่ต้องการใช้ประโยชน์ในรูปแบบกรรมสิทธิ์แบบแปลงรวม บจธ. จะเป็นผู้เจรจาร่วมกับกลุ่มสมาชิกจัดซื้อที่ดินเพื่อนำมาให้ เช่า หรือเช่าซื้อระยะยาวไม่เกิน 30 ปี ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ สนับสนุนการจัดทำผังแปลงที่ดินตามหลักภูมิสถาปัตย์และโครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงสินเชื่อเพื่อพัฒนาที่ดิน และที่อยู่อาศัย ปัจจุบัน บจธ. ได้ให้การสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนไปแล้ว 9 กลุ่ม ใน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดจันทบุรี จังหวัดลำพูน และจังหวัดนครราชสีมา เกษตรกรจำนวน จำนวน 480 ครัวเรือน จำนวนที่ดิน 1,744 – 1 – 63 ไร่
2. โครงการแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิในที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจน บจธ. ได้ช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาจะสูญเสียสิทธิในที่ดิน หรือสูญเสียสิทธิไปแล้ว โดยการสนับสนุนสินเชื่อให้เกษตรกรเพื่อนำไปไถ่ถอนที่ดินจากสถาบันการเงินและเจ้าหนี้นอกระบบ จากการจำนอง ขายฝาก และชำระหนี้ตามคำพิพากษา เพื่อคงสิทธิในที่ดิน รวมไปถึงจัดซื้อที่ดินของลูกหนี้ที่ถูกขายทอดตลาด หรือหลุดขายฝากไปแล้ว ในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท เพื่อคงสิทธิให้เกษตรกรและผู้ยากจนได้กลับมามีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยในที่ดินของตนเองต่อไป และให้สินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพเกษตรกรรมแก่เกษตรกรเพื่อเป็นทุนในการประกอบอาชีพ ตลอดระยะเวลา 5 ปี บจธ.
ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรแล้ว 387 ราย สามารถป้องกันและคงสิทธิในที่ดินได้ถึง 2,476-0-33.7 ไร่
3. โครงการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาด้านที่ดินจากการดำเนินนโยบายของรัฐ มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และผู้ยากจน ที่ประสบปัญหาด้านที่ดินจากการดำเนินนโยบายของรัฐ เช่น โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC และทางหลวงสายพิเศษ บางปะอิน–นครราชสีมา เป็นต้น บจธ. จะสนับสนุนสินเชื่อสำหรับจัดซื้อที่ดินให้เกษตรกร ผู้ยากจนมีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ในรูปแบบแปลงรวมถือกรรมสิทธิ์ร่วม และน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ในการทำเกษตรกรรม เพื่อให้สามารถดำรงชีพได้อย่างมั่นคง ปัจจุบันมีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับการสนับสนุนไปแล้ว 2 กลุ่ม พื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดฉะเชิงเทรา มีเกษตรกรได้รับความช่วยเหลือ 53 ครัวเรือน รวมเนื้อที่ทั้งหมด 103-2-51.3 ไร่
4. โครงการนำร่องธนาคารที่ดินในพื้นที่นำร่อง 5 ชุมชน (ดำเนินงานในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และลำพูน) บจธ. ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจนที่ไม่มีที่ดินทำกินหรือมีไม่เพียงพอต่อการประกอบอาชีพในพื้นที่เป้าหมายให้มีที่ดินทำกินและอยู่อาศัยตามรูปแบบที่ บจธ. กำหนด ซึ่ง บจธ. ได้ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน จำนวน 500 ครัวเรือน โดยได้จัดซื้อที่ดินตามแผนโครงการดังกล่าว เป็นจำนวนที่ดิน 742 – 0 – 56.2 ไร่
23 ธันวาคม 2563