รมว.พม. ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เปิดศูนย์สารพัดนึก ช่วยแก้ปัญหาให้กลุ่มเปราะบางแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ (One Stop Service)
วันที่ 14 ต.ค. 64 เวลา 14.30 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ เทศบาลตำบลสันมหาพน อำเภอแม่แตง เพื่อเปิดศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบลสันมหาพน (ศูนย์สารพัดนึก) เป็นศูนย์บูรณาการการช่วยเหลือประชาชนและกลุ่มเปราะบางทุกช่วงวัยตั้งแต่เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส ที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคมและผลกระทบจากโควิด-19 ในพื้นที่ระดับตำบลแบบครบวงจร เพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และบริการด้านสวัสดิการสังคมและสังคมสงเคราะห์ของรัฐ อีกทั้งแก้ไขปัญหาได้อย่างเบ็ดเสร็จที่จุดเดียว (One Stop Service) ด้วยการบูรณาการความร่วมมือในการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายและอาสาสมัครต่างๆ ในพื้นที่ นอกจากนี้ ได้พบปะพูดคุยอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ในพื้นที่
นายจุติ กล่าวว่า วันนี้ ตนเดินทางมาลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อมาทำงานให้พี่น้องประชาชน ในฐานะตัวแทนของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลประเทศและรัฐบาลท้องถิ่นต้องทำงานร่วมกัน งานนี้จะสำเร็จไม่ได้ ถ้าเราไม่ร่วมมือกัน ถ้าไม่มีการลงพื้นที่ ไม่ไปรับฟังปัญหาของประชาชน ประชาชนจะไม่ได้ประโยชน์ เราต้องทำงานเพื่อให้ประชาชนมีความสุข โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำว่า ต้องทำงานเพื่อประชาชนและอย่าให้มีช่องว่างระหว่างรัฐบาลกับประชาชน ดังนั้น อาสาสมัครต่างๆ จึงเป็นหัวใจของความสำเร็จในการทำงานของรัฐบาล เพราะความสุขของประชาชนคือผลสำเร็จของรัฐบาลเช่นกัน
นายจุติ กล่าวต่อไปว่า ศูนย์แห่งนี้ได้เริ่มทำงานตั้งแต่ปี 2561 และวันนี้ ตนได้มาเปิดอย่างเป็นทางการ ภายหลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือความยากจน ประชาชนไม่มีรายได้ โดยเฉพาะอาชีพจากการท่องเที่ยว ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ ต้องรับภาระในการช่วยดูแลเด็กทั้ง DAY CARE และ NIGHT CARE เพื่อช่วยเหลือพ่อ แม่ ผู้ปกครองที่ไม่มีเวลาดูแล ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน เช่นเดียวกันกับผู้สูงอายุและคนพิการ ดังนั้น เราต้องช่วยกันดูแลให้คนกลุ่มเปราะบางนี้เข้าถึงสิทธิสวัสดิการของรัฐเพื่อให้เข้าถึงการช่วยเหลือให้ได้
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ ศูนย์แห่งนี้จะถ่ายทอดความรู้และทักษะใหม่ๆ ให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบาง และท่านคือผู้ที่ต้องชี้เป้าให้กับกระทรวง พม. เพราะประชาชนที่เดือดร้อนจำเป็นต้องได้การพัฒนา ไม่ใช่ได้รับแค่การช่วยเหลือ เราต้องจัดการให้ได้รับสิทธิสวัสดิการของรัฐ ด้านนายกรัฐมนตรีได้มอบให้ กระทรวง พม. ขับเคลื่อนการทำงานหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือการสร้างอาชีพใหม่ๆ ให้คนรุ่นใหม่ได้มีงานทำในอนาคต ขณะเดียวกันการเคหะแห่งชาติจะมาดูเรื่องการเช่าบ้านให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัย วันนี้ ตนอยากอธิบายว่า รัฐบาลมีเจตจำนงแน่วแน่ที่จะพลิกโฉมประเทศไทย เพราะเราเชื่อว่าคนไทยทำได้ และตนขอยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง คนกระทรวง พม. เราก็จะไม่ทิ้งกัน
15 ตุลาคม 2564