True Square Open Heart สีสันใหม่ของรูปทรงสี่เหลี่ยมในดวงใจ
ย้อนกลับไปในยุคหนึ่ง นาฬิกาต้องดีไซน์ออกมาเป็นทรงกลมเสมอ แต่ Rado กลับลุกขึ้นมาเป็นผู้บุกเบิกแล้วสร้างสรรค์นาฬิกาไฮเทคเซรามิกรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขึ้นมาเป็นแบรนด์แรก ซึ่งก็คือคอลเล็กชั่น True Square ที่ได้รับความนิยมสูงมากจากผู้คนทั่วโลกนับตั้งแต่เปิดตัวเรือนแรก แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้ Rado True Square ประสบความสำเร็จไม่ใช่เพียงดีไซน์แปลกใหม่เท่านั้น แต่เทคนิคการขึ้นรูปตัวเรือนเป็นแบบชิ้นเดียว พร้อมคุณสมบัติที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน ก็ทำให้แฟนนาฬิกาทั่วโลกหลงรัก Rado True Square ทันที
หนึ่งในรุ่นที่คนพูดถึงมากที่สุดตลอดกาล คือ True Square Open Heart นาฬิกาสี่เหลี่ยมจัตุรัสหน้าปัดเปลือย เผยให้เห็นกลไกการเดินออโตเมติกคาลิเบอร์ R734 และล่าสุด Rado ได้ออกแบบคอลเล็กชั่นนี้เพิ่มมาอีก 2 เรือน เรือนแรกได้แก่ สีเทอร์ควอยซ์ ที่ตัวเรือนกับเม็ดมะยมเป็นไฮเทคเซรามิกแบบชิ้นเดียว หน้าปัดเป็นแบบขัดเงาแนวตั้ง บริเวณดัชนีบอกเวลาทั้ง 12 ตำแหน่งประดับเพชรฟูลคัต Top Wesselton VS-SI 0.096 กะรัต ตัวเข็มนาฬิกาเป็นสีโรเดียมเคลือบวีเนียร์สีขาวพร้อมสาร Super-Luminova® สีขาวที่ช่วยให้เราเห็นเวลาได้ชัดเจนมากในทุกสภาพแสง นอกจากนี้รายละเอียดบนหน้าปัดยังคงความพิถีพิถันเหมือนเคย คือมีสัญลักษณ์รูปสมอเคลื่อนที่สีโรเดียมบนพื้นหลังสีเงิน ส่วนโลโก้ Rado และคำว่า Automatic พิมพ์สีเทา แล้วหากพลิกไปด้านหลังก็จะพบกับตัวเรือนไทเทเนียมผสานกับคริสตัลแซฟไฟร์ที่ช่วยให้เราเห็นกลไกนาฬิกาจากอีกมุมมองหนึ่ง ส่วนสายนาฬิกาทำจากไฮเทคเซรามิกขัดเงาสีเขียวเทอร์ควอยซ์เฉดเดียวกับตัวเรือน ตัวล็อกสายเป็นไทเทเนียมแบบพับ 3 ทบ
Rado True Square Open Heart อีกหนึ่งเรือนล่าสุดเป็นไฮเทคเซรามิกสีขาวขัดเงา โดดเด่นด้วยอัญมณีหลากสีจำนวน 12 เม็ดที่ไล่เฉดอย่างสวยงามบริเวณตำแหน่งที่บอกเวลา เข็มนาฬิกาสีโรเดียมเคลือบ Super-Luminova® ส่วนสัญลักษณ์รูปสมอเรือสุดไอคอนิกของแบรนด์เป็นสีโรเดียมบนพื้นขาว ตัวโลโก้ Rado และ Automatic พิมพ์สีเทา สายนาฬิกาใช้วัสดุไฮเทคเซรามิกสีขาวเหมือนตัวเรือน ให้สัมผัสเบา ใส่สบาย มาพร้อมตัวล็อกไทเทเนียมพับ 3 ทบเช่นเดียวกับเรือนสีเทอควอยซ์
อีกหนึ่งดีไซน์ที่เราจะเห็นได้ชัดเจนจากทั้ง 2 เรือนนี้คือ การใช้ลวดลายที่เรียกว่า Côte de Genève มาตกแต่งบริเวณกลไกภายใต้คริสตัลแซฟไฟร์โปร่งใส และนอกจากรูปลักษณ์ภายนอกอันงดงามหรูหราแล้ว ด้านในตัวเรือนของทั้ง 2 รุ่นยังเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ โดยใช้กลไกการเดินออโตเมติก Rado คาลิเบอร์ R734 สำรองพลังงานได้นาน 80 ชั่วโมง กันน้ำได้ลึก 5 บาร์ (50 เมตร) มีแฮร์สปริง Nivachron™ ช่วยปกป้องนาฬิกาจากสนามแม่เหล็กที่เรามองไม่เห็นรอบๆ ตัว ช่วยให้บอกเวลาได้อย่างแม่นยำเสมอ
คุณสมบัติทั้งหมดนี้ผลักดันให้ Rado True Square Automatic Open Heart สองเรือนล่าสุดก้าวขึ้นมาเป็นนาฬิกาที่โดดเด่นทั้งด้านรูปทรง สีสัน และประสิทธิภาพ แถมยังมีเสน่ห์จนอาจทำให้เราเผลอดูเวลาบ่อยกว่าเคย
10 พฤษภาคม 2567