อุตสาหกรรมยาสูบสุดทน! รวมตัวแจงผลกระทบนโยบายภาษีสรรพสามิตและค่าธรรมเนียมอากาศสะอาด ลั่น แบกรับภาระมากกว่านี้ไม่ไหวแล้ว
ผู้ค้าส่งและชาวไร่ยาสูบ รวมตัวถกอนาคตชาวยาสูบหลังได้รับผลกระทบจากกฎหมายและนโยบายที่เปลี่ยนแปลงต่อเนื่องโดยเฉพาะจากการปรับภาษีทั้งทางตรงและทางอ้อม วอนรัฐบาลเห็นใจ ทนมานานกว่า 10 ปี และไม่สามารถทนรับภาระมากกว่านี้แล้ว
สมาคมการค้าผู้ขายส่งยาสูบจัดประชุมเสวนาในหัวข้อ “อนาคตผู้ค้าส่งและชาวไร่ยาสูบกับกฎหมายสำคัญเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยาสูบ” ณ โรงแรม รามา การ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร โดยมีหัวข้อการพูดคุยที่สำคัญ ได้แก่ การปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตยาสูบใหม่ และการห้ามใช้สารที่ใช้ในการปรุงในผลิตภัณฑ์ยาสูบ ที่เป็นความเคลื่อนไหวด้านนโยบายล่าสุดจากภาครัฐและส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยาสูบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
ทางด้านตัวแทนชาวไร่ยาสูบคนหนึ่ง ให้ความเห็นว่า ในทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนมากที่สุด และเดือดร้อนก่อนใครคือชาวไร่ยาสูบ ดังนั้น ไม่ว่าครั้งนี้จะปรับโครงสร้างภาษีเป็นแบบไหน ข้อเสนอของชาวไร่ยาสูบคือภาษีจะต้องไม่สูงไปมากกว่านี้แล้ว อัตราภาษีบุหรี่ต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ทำให้ราคาบุหรี่สูงขึ้นจนสูญเสียตลาดไปให้บุหรี่เถื่อนและบุหรี่ไฟฟ้าที่ผิดกฎหมายจนหมด
ชาวไร่ยาสูบย้ำว่าขณะนี้นอกจากเรื่องภาษีสรรพสามิต ยังมีประเด็นเร่งด่วนที่อาจสร้างความเดือดร้อนแก่อุตสาหกรรมยาสูบ ได้แก่การเรียกเก็บ “ค่าธรรมเนียมเพื่ออากาศสะอาด” ที่อาจจะครอบคลุมสินค้ายาสูบด้วย หากมีการเรียกเก็บจริงอาจทำให้ราคาบุหรี่ถูกกฎหมายเพิ่มขึ้นจาก 70 บาท ไปถึงราว 100 บาท
“ชาวไร่ยาสูบจำนวนมากอาศัยอยู่ในภาคเหนือ เราและครอบครัวของเราได้รับความเดือดร้อนจากภัยของฝุ่นพิษ จึงทราบถึงเจตนาดีของการมีพ.ร.บ.อากาศสะอาดและเอาใจช่วยเสมอ จะได้ช่วยบรรเทาปัญหาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของชาวไทย โดยเฉพาะในภาคเหนือที่ต้องประสบกับฝุ่นควันทุกปี แต่เราขอคัดค้านการเก็บค่าธรรมเนียมอากาศสะอาดจากยาสูบ เพราะมีความซ้ำซ้อนกับภาษีสรรพสามิตที่เก็บอยู่แล้ว และปัจจุบันยาสูบถูกเก็บภาษีต่างๆ รวมถึง 8 ตัวและแนวโน้มภาษีสรรพสามิตก็ลดลงเรื่อยๆ หากมีการเก็บค่าธรรมเนียมหรือภาษีอื่นเพิ่มอีกอาจเป็นการทำร้ายชาวไร่ยาสูบกว่า 20,000 ครอบครัวทั่วประเทศ”
นายปรัชญา กันทาธรรม ตัวแทนชาวไร่ยาสูบจังหวัดแพร่ กล่าวว่า “อยากให้รัฐบาลทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง มิเช่นนั้นอาจไม่ใช่เพียงชาวไร่ยาสูบที่สูญรายได้ แต่รายได้รัฐก็อาจลดลงตามไปด้วย เราเองไม่พร้อมรับความเดือดร้อนใดๆ อีก การเก็บค่าธรรมเนียมเช่นนี้จะเปิดช่องว่างให้บุหรี่เถื่อนราคาถูกเข้ามาแทรกแซง บ่อนทำลายยาสูบถูกกฎหมายในประเทศ การจะมาเรียกเก็บเพิ่มจากสินค้ายาสูบอาจทำให้ชาวไร่ได้รับผลกระทบจากการรับซื้อใบยาที่ลดลงทั้งด้านปริมาณและราคา ซึ่งจะไม่เป็นไปตามนโยบายที่ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เผ่าภูมิ เคยกล่าวไว้เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนว่าต้องช่วยเหลือสนับสนุนขาวไร่ยาสูบเป็นสำคัญ พวกเราจึงอยากขอคัดค้านเรื่องนี้ และขอเสนอให้รัฐหาแหล่งงบประมาณจากที่อื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อหยุดซ้ำเติมชาวไร่ยาสูบที่เดือดร้อนหนักมากจนแบกภาระไม่ไหวแล้ว”
26 พฤศจิกายน 2567