สัมผัสที่สุดแห่งสุนทรีย์ ฟัง รู้ ดู ชมดนตรี ดื่มด่ำประวัติศาสตร์ เคล้าลมหนาว ณ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน จัดเต็มทุกวันเสาร์ ตลอดเดือนธันวาคม

  เนื่องในวาระฉลองครบ 100 ปี พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน หนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่มีคุณค่าทางด้านธรรมชาติ สถาปัตยกรรมและวัฒนธรรม ได้กลับมาเปิดให้เข้าเยี่ยมชมเป็นประจำทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นมา โดยเริ่มด้วยการจัดงานเทศน์มหาชาติ การจัดทำพระสมเด็จมฤคทายวันพิมพ์ปรกโพธิรุ่น 100 ปีเพื่อเป็นที่ระลึกและเพื่อเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคบูชานำรายได้อนุรักษ์บูรณะพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน 

โดยในช่วงฤดูหนาว ได้มีการจัดงานรื่นเริงประจำปีในเดือนธันวาคม ซึ่งในปีนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ มูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี จัดงาน “ฟังดนตรีเถิดชื่นใจ”เพื่อสานต่อกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และสืบสานมรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในช่วงฤดูหนาวอย่างยั่งยืน “โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวและสืบสานมรดกด้านธรรมชาติและวัฒนธรรม ฟังดนตรีเถิดชื่นใจ งานฤดูหนาว ณ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน” เปิดโอกาสให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความงดงามทางประวัติศาสตร์ ในกระบวนการฟื้นฟูธรรมชาติและการสืบสานศิลปวัฒนธรรม ผ่านกิจกรรมฟังการอ่านบทพระราชนิพนธ์ ดนตรี ชิมอาหาร และร่วมแต่งกายตามรัชสมัยนิยม โดยกิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นทุกวันเสาร์ ตลอดเดือนธันวาคมนี้

 มูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี กล่าวถึงเป้าหมายของการจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี ของพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ ว่าพระราชนิเวศน์มฤคทายวันกลับมาเปิดให้เข้าเยี่ยมชมและเปิดโอกาสให้ผู้ประสงค์เป็นส่วนสำคัญในฐานะเป็นผู้อนุรักษ์และบูรณะมรดกสำคัญของชาติให้คงอยู่โดยร่วมเป็น ๑ ใน สมาชิกบูรโณปถัมภ์ ๑๐๙,๖๐๐ คน เป็นการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างอดีตถึงปัจจุบันและส่งต่อไปยังอนาคต พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่นอย่างมีคุณค่า ช่วยส่งเสริมความรู้และการเข้าใจในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยให้กับทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีความหมายทั้งในด้านการพักผ่อนหย่อนใจ การเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสถานที่ และส่งเสริมให้การท่องเที่ยวในพื้นที่เป็นไปอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติและมรดกทางวัฒนธรรมร่วมกันอย่างบูรณาการเพื่อความพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน

 

สำหรับกิจกรรมหลักของโครงการ ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด ฟังดนตรีเถิดชื่นใจ : เสียงเพลงแห่ง มฤคทายวัน จะจัดขึ้นตลอดเดือนธันวาคม ในวันเสาร์ที่ 14,  21 และ 28 ธันวาคม ตั้งแต่เวลา 13.00-18.00 น. เพื่อนำเสนอประสบการณ์สุนทรีย์ช่วงเวลาบ่ายแห่งฤดูหนาว ท่ามกลางบรรยากาศของพระราชนิเวศน์ ซึ่งนอกจากจะโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ยังโอบล้อมด้วยธรรมชาติอันร่มรื่นและหลากหลายที่กำลังฟื้นตัวกลับมา พร้อมกันนี้ยังจัดเต็มด้วยกิจกรรมที่ให้นักท่องเที่ยวได้มาร่วม “ฟัง รู้ ดู ชม” เริ่มจาก ฟัง - เพลงคลาสสิคทั้งไทยและเทศ ทั้งเก่าและใหม่ท่ามกลางบรรยากาศฤดูหนาว รู้ - เรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านบทพระราชนิพนธ์ในพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 พร้อมชวนแต่งกายในชุดไทยตามสมัยนิยมรัชกาลที่ 6 ซึ่งโปรดให้สตรีนุ่งซิ่น และที่ตัดแบบเรียบง่ายทรงตรง เรียกกันอย่างลำลองว่าเสื้อผ้าเช็ดหน้า ครั้นต่อมาได้รับอิทธิพลจากแฟชั่นการแต่งกายแบบ Gatsby มีการประดับตกแต่งให้ดูสนุกสนานยิ่งขึ้น  ดู ชม – ศึกษาประวัติศาสตร์ผ่านการอ่าน บทพระราชนิพนธ์ในพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ความงดงามของพระราชวัง ยามบ่าย ในแสงแดดอันสวยงามของฤดูหนาว อวลด้วยกลิ่นดอกไม้และเครื่องหอมในบรรยากาศริมทะเลที่ร่มรื่น

 เพลิดเพลินกับกิจกรรม “ฟัง รู้ ดู ชม” แล้ว ในช่วงเวลา 13.00-17.30 น. ณ ท้องพระโรงพระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ยังมีการแสดงดนตรีให้ดื่มด่ำ นำเสนอประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าและแตกต่างไม่เหมือนที่ไหนให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัส สำหรับวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2567 พบกับการแสดงของวงดุริยางค์ราชนาวี ( 25 ชิ้น ) กองดุริยางค์ทหารเรือ ฐานทัพเรือกรุงเทพบรรเลงเพลงของทหารเรือ และเพลงจากบทพระราชนิพนธ์ ในพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 การแสดงเปิดโรง ด้วยลำตัดและเพลงฉ่อยวงรากไทย จากโรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ เมืองเพชรบุรี วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2567 พบกับการแสดงของสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา บทเพลงจากคีตนิพนธ์ร่วมสมัยในพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 การแสดงเปิดโรง การขับเสภาและการอ่านทำนองเสนาะ บทพระราชนิพนธ์ในพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 โดย กวินภพ ทองนาค นิสิตปริญญามหาบัณฑิต คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แก่ บทเสภาสามัคคีเสวก, โคลงอารัมภกถาพระนลคำหลวง, มงคลสูตรคำฉันท์ และสยามานุสสติ ทั้งนี้ ไม่ต้องกังวลว่าจะเสียอรรถรสเพราะไม่เข้าใจความหมาย เนื่องจากแต่ละบทจะมีการสลับการอธิบายที่มาและความหมายโดย รศ.ดร.อาทิตย์ ชีรวณิชย์กุล จากภาควิชาภาษาไทยคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม 2567 พบกับการแสดงของมูลนิธิหลวงประดิษฐ์ไพเราะ บทเพลงจากบทพระราชนิพนธ์ในพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 การแสดงเปิดโรงด้วยเพลงพวงมาลัยจากกลุ่มชาวบ้านตำบลนายาง อำเภอชะอำจังหวัดเพชรบุรี ธรรมเนียมการแสดงเปิดหน้าม่านโดยการแสดงของชาวเพชรบุรีนี้ มีมาตั้งแต่ครั้งพระบาทสมเด็จพระมงกฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ทรงจัดการแสดงขึ้น ณ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน

นอกจากนี้ใครที่ชอบงานคราฟต์ ยังสามารถเพลิดเพลินกับกลิ่นยาดม “สสิตตา” ของพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน   โดยแม่ส้ม-อมร อมรรัตนเสรีกุล, ประดิษฐ์กลิ่นใหม่เพิ่มเติม 3 กลิ่นคือ มัทนะพาธา ศกุตลาและเวนิสวานิช  ชมขั้นตอนการทำกระดาษจากใบสับปะรด นิทรรศการกระบวนการสร้างสีและสิ่งพิมพ์จากสีธรรมชาติ โดยศาสตราจารย์เกียรติคุณญาณวิทย์ กุญแจทอง ศิลปินแห่งชาติ, กิจกรรมพิมพ์ผ้าจากโขมพัสต์และลายพระราชนิเวศน์ ฯ ชิมต้นตำรับข้าวแกงเมืองเพชร และขนมจีนจากหน้าสถานีกาชาดเมืองเพชรบุรี, ขนมจีบ และ น้ำพริกมะมาด จากกาพย์เห่ชมเครื่องว่างพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ชมแจกันพรรณไม้ที่จัดโดยใช้พรรณไม้ของสังคมพืช บนสันดอนทรายชายฝั่ง ที่ร้านน้ำชาส่วนพระราชฐานชั้นใน พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เรียนปักผ้าลายดอกไม้จากพรรณไม้สังคมพืชบนสันดอนทรายชายฝั่ง โดยป้าตุ้ย - ศิริพร ไข่นาค ปิดท้ายด้วยกิจกรรมทำพวงมะโหตร ตอกธงกระดาษโดยกลุ่มลูกหว้าจากเมืองเพชรบุรี ในวันเสาร์ที่  14 ธันวาคม และในวันเสาร์ที่ 14 และ 21 ธันวาคม อาจารย์อริยะ ทรงประไพ สถาปนิกอนุรักษ์ นำชมงานสถาปัตยกรรมของพระราชนิเวศน์มฤคทายวันโดยละเอียดตั้งแต่เวลา 10.00 น.

ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแหงประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงความคาดหวังต่อการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ว่า จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศให้มาเยี่ยมชมพระราชนิเวศน์มากขึ้นในช่วงฤดูหนาว ทำให้พระราชนิเวศน์มฤคทายวันกลายเป็นจุดเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมที่สำคัญในระดับนานาชาติพร้อมกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ผ่านการจัดกิจกรรมเชิงอนุรักษ์ ช่วยให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเข้าถึงความรู้ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่า นำไปสู่การเสริมสร้างการอนุรักษ์และความรู้สึกถึงความสำคัญของสถานที่สร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยในระดับสากล ที่สำคัญยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวอีกด้วย

2 มกราคม 2568


บริษัท มีเดีย เน็ทเวิร์ค จำกัด
138, 140 ซอยอนามัย ถนนศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250
MEDIA NETWORK Co.,Ltd
138, 140 Soi Anamai Srinakarin Road Suanluang Suanluang Bangkok 10250
Tel. 02 721 4417 Fax. 02 721 5516
E-mail : phototechthailand@gmail.com


ติดต่อโฆษณาหรือข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 02 721 4417 , 097 921 2929 คุณขวัญ

แฟนเพจ Phototech Magazine


ออกแบบโดย touronthai