Tact นำ AI เสริมแกร่ง ESG Management ยกระดับการจัดการข้อมูล ด้วย Microsoft Cloud for Sustainability

   กรุงเทพฯ, 3 มีนาคม 2568 – Tact ที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ความยั่งยืนและโซลูชัน ESG  นำเทคโนโลยี AI ขับเคลื่อนการจัดการข้อมูลด้านความยั่งยืน ด้วย Microsoft Cloud for Sustainability เพื่อช่วยองค์กรไทยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ภายใต้กติกาการค้าของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ผ่านระบบการจัดเก็บและบริหารจัดการข้อมูลด้านความยั่งยืน เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้บรรลุทั้งเป้าหมาย Net Zero และเป้าหมายความยั่งยืนในมิติต่าง ๆ

Tact นำความเชี่ยวชาญด้านการบริหารธุรกิจอย่างยั่งยืน ผสานกับศักยภาพของ AI จากไมโครซอฟท์เพื่อช่วยองค์กรในส่วนของ Data Automation เพื่อลดความผิดพลาดจาก Human Error ทำให้การรายงาน ESG เป็นไปอย่างอัตโนมัติให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลที่ต้องการ เพื่อลดภาระงานและความซับซ้อนของการจัดการข้อมูล และ Analyticที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการวิเคราะห์ข้อมูล AI จะช่วยตรวจสอบแนวโน้ม และวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

นายชยุตม์ สกุลคู Chief Executive Officer ของ Tact กล่าวว่า "นับเป็นก้าวแรกที่เรานำ เทคโนโลยี AI จากไมโครซอฟท์ เข้ามาพลิกโฉมการบริหารจัดการ ESG ขององค์กร โดยในประเทศไทย หลายองค์กรเริ่มมีความจำเป็นต้องเปิดเผยและรายงานข้อมูล ESG เพื่อตอบรับกับความคาดหวังของนักลงทุนและคู่ค้า  แต่เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ทำให้หลายแห่งขาดองค์ความรู้และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงการจัดการรวบรวมข้อมูลที่มีความซับซ้อน จัดเก็บในลักษณะ Manual หรือบางชุดข้อมูลอาจอยู่นอกเหนือขอบเขตขององค์กร ทั้งหมดนี้คือความท้าทายของการสร้างความโปร่งใสเพื่อตอบรับกับมาตรฐานต่างๆที่มีความจำเป็นขึ้นเรื่อยๆ ในการดำเนินธุรกิจ  การนำ AI เข้ามาใช้ในการบริการจัดการ ESG จึงเป็นแนวทางสำคัญที่จะสามารถปลดล็อกศักยภาพขององค์กร ให้สามารถจัดการกับรูปแบบของข้อมูลที่มีความแตกต่างและกระจัดกระจาย ช่วยองค์กรในวิเคราะห์หา Insight ที่สำคัญ และจัดทำรายงานความยั่งยืนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล

Tact มุ่งมั่นที่จะผลักดันภาคธุรกิจให้พร้อมต่อการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่แนวทางความยั่งยืน และ AI จะเป็นหัวใจสำคัญของอนาคต โดยสอดคล้องกับพันธกิจ Driving Sustainability Transformation ของเรา เพื่อช่วยให้องค์กรทุกขนาดสามารถปรับตัวและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศได้อย่างแท้จริง”

นายวสุพล ธารกกาญจน์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ไมโครซอฟท์เชื่อว่า AI เป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพช่วยเร่งให้การดำเนินงานด้านความยั่งยืนทั่วโลกมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบบริการโซลูชั่นต่าง ๆ  ควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร และส่งเสริมการกำกับดูแล AI ผ่านการร่วมกับพันธมิตรของเรา ช่วยให้องค์กรธุรกิจต่าง ๆ บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน”

ปัจจุบันองค์กรชั้นนำทั่วโลกกำลังเผชิญกับแรงกดดันในการบริหาร ESG ให้มีความถูกต้อง โปร่งใส และตรวจสอบได้ Microsoft Cloud for Sustainability ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายเหล่านี้โดยตรง โดยการนำโซลูชันนี้มาใช้จะช่วยให้องค์กรสามารถยกระดับการบริหาร ESG ได้อย่างเป็นระบบ แม่นยำ และสร้างผลกระทบเชิงบวกในระยะยาว โดย Microsoft Cloud for Sustainability มี Use Case ที่เด่น ๆ ดังนี้

1.ESG data automation: ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ที่มีปริมาณมหาศาลและกระจัดกระจายในรูปแบบที่แตกต่างกัน การนำ AI เข้ามาช่วยจัดการข้อมูลขาเข้าจึงเป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยลดความซับซ้อนและภาระงานที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีอยู่อย่างจำกัด โดยเฉพาะกับข้อมูล manual เช่น บิลน้ำมันหรือบิลค่าไฟ ซึ่งสามารถใช้เทคโนโลยี OCR เข้ามาช่วยประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลที่อ่านได้ เข้าสู่ ESG data management platform โดยตรง ทำให้สามารถนำข้อมูลคุณภาพสูงไปใช้งานต่อได้ทันที พร้อมทั้งช่วยเพิ่มความถูกต้องและความสามารถในการติดตามข้อมูล (data traceability) ตลอดจนยกระดับ productivity ของทีมงานโดยรวม

2. AI-driven analytics: การนำข้อมูล ESG ไปวิเคราะห์และใช้ในเชิงปฏิบัติยังเผชิญกับข้อจำกัด การนำ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเปลี่ยนวิธีการทำงานในองค์กร เช่น สร้าง Forecasting model เพื่อพยากรณ์ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่จะลดลงจากการทำโปรเจกต์ เพื่อให้เห็นภาพรวมและแนวโน้มในอนาคตก่อนตัดสินใจลงทุน นอกจากนี้ การนำ AI plug-in เข้ามาประยุกต์ใช้ในแดชบอร์ดช่วยให้ผู้ใช้งานที่ไม่ใช่สาย IT สามารถเจาะลึกข้อมูลเชิงลึกได้อย่างอิสระและครบถ้วน ส่งผลให้ได้ insights ที่มีประโยชน์ในการปรับปรุง ESG performance และสนับสนุนการตัดสินใจแบบ data-driven ภายในองค์กรอย่างแท้จริง

3. ESG Compliance and Benchmarking Insights: ในยุคที่บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูล ESG และถูกประเมินโดยมาตรฐานระดับโลก เช่น DJSI ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือขององค์กรต่อนักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจึงมีความสำคัญสูง การนำ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ gap analysis เพื่อเปรียบเทียบการดำเนินงานด้าน ESG กับมาตรฐานต่าง ๆ ช่วยระบุช่องว่างและข้อบกพร่องที่ต้องปรับปรุงได้ชัดเจน พร้อมทั้งใช้ AI ทำ benchmarking analysis เปรียบเทียบกับคู่แข่งหรือมาตรฐานอุตสาหกรรมจากข้อมูลสาธารณะ ช่วยให้บริษัททราบตำแหน่งในตลาดและจุดที่ยังขาดตกบกพร่อง ส่งเสริมให้องค์กรพัฒนาการดำเนินงานด้าน ESG อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความน่าเชื่อถือในระยะยาว

องค์กรที่ต้องการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตของ ESG สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการและโซลูชันของ Tact ได้ที่ www.tact.in.th

 

3 มีนาคม 2568


บริษัท มีเดีย เน็ทเวิร์ค จำกัด
138, 140 ซอยอนามัย ถนนศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250
MEDIA NETWORK Co.,Ltd
138, 140 Soi Anamai Srinakarin Road Suanluang Suanluang Bangkok 10250
Tel. 02 721 4417 Fax. 02 721 5516
E-mail : phototechthailand@gmail.com


ติดต่อโฆษณาหรือข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 02 721 4417 , 097 921 2929 คุณขวัญ

แฟนเพจ Phototech Magazine


ออกแบบโดย touronthai