วัดใหญ่สุวรรณาราม จังหวัดเพชรบุรี
วัดใหญ่สุวรรณาราม จังหวัดเพชรบุรี จัดเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร อยู่ที่ตำบลท่าราบ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี วัดนี้สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา และได้มีการบูรณะในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายในวัดมีศาลาการเปรียญ เป็นพระตำหนักไม้สักทั้งหลังที่พระเจ้าเสือแห่งกรุงศรีอยุธยา พระราชทานแด่พระสังฆราชชาวเพชรบุรี ศาลาการเปรียญนี้มีการแกะสลักไม้ที่สวยงาม โดยเฉพาะบานประตูสลักลายก้านขดปิดทอง และยังมีธรรมาสน์เทศน์ ซึ่งแกะสลักลงรักปิดทอง รูปทรงเป็นบุษบกที่งดงามและสมบูรณ์ บนผนังภายในพระอุโบสถ มีภาพเขียนเทพชุมนุม อายุกว่า 300 ปี
ศาลาการเปรียญ เป็นสถาปัตยกรรม-ศิลปกรรมยุคอยุธยาตอนปลาย สร้างด้วยไม้ผนังเป็นฝาปะกน เครื่องหลังคาเป็นโครงประดุชนิดมีจันทันต่อ มุงด้วยกระเบื้องกาบูแต่ด้วยการบูรณะที่ไม่ถูกต้องจึงมีการเทปูนตำ(ปูนโบราณ)ลงฉาบทั้งผืนหลังคา แต่ปูนตำเป็นปูนที่ใช้กะดาษฟาง เป็นส่วนผสมจึงทำให้อมความชื้นและมีตะใคร่ขึ้นจับหลังคา
ศาลาการเปรียญเดิมเป็นตำหนักที่ประทับของพระสรรเพชญ์ที่ 8 หรือพระเจ้าเสือ รื้อมาถวายพระสังฆราชแตงโมโดยมีบานประตูแกะสลักที่งดงามและมีความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์และศิลปกรรมนั่นคือเป็นศิลปกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย และที่บานประตูมีหลักมีรอยทหารพม่าใช้ขวานจามบานประตูเพื่อจับคนที่อยู่ข้างใน แต่นักวิชาการให้ความเห็นว่า น่าจะเป็นการทำลายประตูตั้งแต่ครั้งรื้อตำหนักถวายสมเด็จเจ้าแตงโม (พระสุวรรณมุณี) พระสังฆราช เกี่ยวเนื่องกับเรื่องวิญญาณเจ้าฟ้าพระขวัญ เจ้าของตำหนักเดิม ที่ถูกพระเจ้าเสือสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ เมื่อครั้งสมเด็จพระเพทราชาประชวรใกล้สวรรคต
หอเก็บพระไตรปิฏก เป็นอาคารไม้ผนังฝาปะกน รองรับด้วยเสาไม้ 3เสา จากแนวคิดที่ว่า พระไตรปิฎก ประกอบด้วย 3 ปิฎกคือ พระธรรมปิฏก พระไตรปิฏก และพระสุตันตปิฎก
หอไตร หอไตรหลังเก่าอยู่กลางน้ำ เห็นเสาเรียงกัน 3 ต้น และสะพานที่ทอดไปถึงหอไตร รูปทรงเรือนไทยโบราณชั้นเดียว 2 ห้อง บริเวณนี้และภายในพระอุโบสถเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง "สุริโยทัย" ฉากในการเดินทางทางเรือเสมือนว่ามีแม่น้ำลำคลองไหลผ่านวัด หากแต่เป็นเพียงสระที่อยู่ด้านข้างพระอุโบสถ
หน้าบันซุ้มประตูวิหารคด หน้าบันของซุ้มประตูระเบียงคดทางเข้าพระอุโบสถ มีสี่ทิศ ประดับลวดลายและเลข ๕ ไทย ไว้เหมือนกันทั้งหมด 4 ด้าน มุมระเบียงคดที่มาบรรจบกันก็มีการสร้างเป็นซุ้มหลังคาคลุมและมีหน้าบันแบบเดียวกันทั้งหมด ยกเว้นซุ้มประตูด้านหน้าพระอุโบสถ รวมแล้วมีการประดับเลข ๕ ไทย 28 แห่ง มุมนี้เป็นภาพที่ถ่ายจากบนศาลาการเปรียญที่อยู่ชิดกับระเบียงคดจนทำให้ไม่สามารถเก็บภาพภายในระเบียงคดและอุโบสถได้
ธรรมาสน์ ในศาลาการเปรียญมีธรรมาสน์อยู่ 2 หลัง หลังเก่ามีมาพร้อมกับศาลาการเปรียญ ลักษณะเป็นไม้จำหลัก ทรงบุษบก รัชกาลที่ ๕ ทรงชมเชยว่างามนัก
พระจุฬามณีเจดีย์ เป็นเจดีย์ที่อยู่บนสวรรค์ ปัจจุบันมีการสร้างพระจุฬามณีเจดีย์ให้ปรากฏเห็นหลายแห่ง เช่นที่นครสวรรค์ วัดคีรีวงศ์ พระจุฬามณีเจดีย์อยู่ที่ด้านหน้าพระอุโบสถภายในระเบียงคดซึ่งตรงกับประตูทางเข้า-ออก จึงทำให้ประตูนี้ต้องปิดไว้ตลอด
พระประธาน วัดใหญ่สุวรรณาราม พระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย พุทธลักษณะสมส่วนสวยงาม มีฐานพระตกแต่งลวดลายปูนปั้นและปิดทองประดับกระจกสีสวยงามมาก เด่นตระหง่านอยู่ตรงกลางโดยมีพระพุทธรูปที่งดงามอีกหลายองค์ประดิษฐานบนฐานชั้นล่าง
เลข ๕ กลับด้าน
เลข ๕ กลับด้าน ที่เราได้เห็นอยู่ก็เป็นจริงดังที่หลวงพ่อท่านบอก มีหน้าบันของซุ้มประตูด้านทิศเหนือซึ่งหันออกนอกกำแพงวัดสามารถมองเห็นได้จากถนนที่ผ่านด้านหน้าวัด เพียงด้านเดียวเท่านั้นที่ติดเลข ๕ กลับด้าน หลวงพ่อท่านเล่าว่าเป็นความตั้งใจในระหว่างการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดใหญ่สุวรรณาราม เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ได้เสด็จสวรรคตลง สมเด็จพระสังฆราช (แตงโม) ได้สั่งให้ทำการติดเลข ๕ กลับด้าน ด้วยความหมายว่า รัชกาลที่ ๕ ผู้โปรดฯ ให้ยกวัดใหญ่สุวรรณารามเป็นพระอารามหลวงนั้น คงไม่ได้เสด็จมายังวัดแห่งนี้อีกแล้ว
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า
ขอขอบคุณ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ภาพ : ขวัญจิตร มิตรยอดวงศ์
19 กรกฏาคม 2560