ขอพร ขอทรัพย์ เปิดวังนาคินทร์ \

ทัวร์บุญ ทัวร์ธรรม คำชะโนด เปิดวัง เปิดทรัพย์คุณโทนี่ นักเต้น อมิตา ทาทายัง ได้พาคณะทัวร์ "ทัวร์บุญทัวร์ธรรม คำชะโนด เปิดวัง เปิดทรัพย์" โดยได้เชิญพระครูบาญาณภัทร ภททจาโร และอาจารย์ อิศเรศวรณ์ ผู้มีญาณบารมีสูงทางธรรม ทางเทพ ทางพญานาค เข้าร่วมพิธีศักดิ์ที่ วัดป่าคำชะโนด เมืองบาดาลมีเส้นทางเชื่อมเข้ามายังเมืองมนุษย์ พร้อมพาชมความงดงามของวัดผาตากเสื้อ บริเวณจุดชมวิวสามารถมองเห็นฝั่ง สปป.ลาว ได้อย่างชัดเจน ตามด้วยเส้นทางแห่งดินแดนนาคาและนาคี ณ ถ้ำดินเพียง เมืองนครบาดาล วัดส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงธรรมะ และพาสักการะหลวงพ่อพระใส พระอารามหลวง ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาจากประชาชนชาวไทย และประเทศเพื่อนบ้าน ปิดท้ายกันด้วยชมทัศนียภาพ ถ่ายภาพหมู่พร้อมพญานาคคู่ บริเวณริมโขง หน้าวัดลำดวน จ.หนองคาย

เช้านี้พระครูบาญาณภัทร ภททจาโร อาจารย์ อิศเรศวรณ์  และคุณโทนี่ นักเต้น อมิตา ทาทายัง พร้อมด้วยผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญใครั้งนี้กว่า ๒๐๐ ท่านเดินทาง มาทำพิธีบวงสรวงใหญ่เปิด วังนาคินทร์ คำชะโนด โดยการบวงสรวงในครั้งนี้ มีพระครูบาญาณภัทร ภททจาโร และอาจารย์ อิศเรศวรณ์  เป็นประธานในการทำพิธี โดยมีคุณ โทนี่ นักเต้น อมิตา ทาทายัง เป็นผู้จัดงานบุญนี้ ซึ่งก็เป็นครั้งที่ ๒ สำหรับทริป "ทัวร์บุุญทัวร์ธรรม"

โดยพิธีบวงสรวงนี้นี้ ได้จัดขึ้นเมื่อ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ริมสระน้ำ ที่ป่าคำชะโนด อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ด้วยการนำกระทงใส่เครื่องบวงสรวง ไปลอยน้ำ ถวายแก่ พระแม่ธรณี พระแม่คงคา องค์พยานาคราช เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว หลังจากเสร็จพิธีบวงสรวง ทางคณะได้พาทุกท่านมาชมบรรยากาศความงามของธรรมชาติที่ "วัดผาตากเสื้อ" 

คำชะโนด เกาะมหัศจรรย์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่นี่ เป็นที่รู้จักของชาวไทยมานานมากแล้วและล่ำลือกันว่าเป็นหนึ่งในจุดเชื่อมต่อของโลกมนุษย์กับโลกบาดาล ล่ำลือกันมาว่าเกาะแห่งนี้เป็นที่อยู่ของท่านพญานาคา คือมีจุดเชื่อมต่อระหว่างสองโลกเข้าไว้ด้วยกัน คนที่ไปมาหลายคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพอเดินเข้าไปในเกาะแล้วจะรู้สึกได้ถึงความเย็น ที่ป่าแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นชะโนด ซึ่งเป็นพืชจำพวกปาล์ม ความยาวประมาณ 200 เมตร ป่าคำชะโนดเป็นสถานที่ที่ปรากฏในตำนานพื้นบ้าน เป็น

บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ทุกท่านสามารถตักใส่ภาชนะที่เตรียมมากลับไปฝากบุคคลอันเป็นที่รักได้

สถานที่ที่เชื่อว่าเป็นที่สิงสถิตของพญานาคและสิ่งลี้ลับต่างๆ มากมาย *เรื่องนี้เป็นความศรัทธาเฉพาะบุคคล หากไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่*

วัดผาตากเสื้อ ตั้งอยู่บนเนินเขา อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย เป็นสถานปฏิบัติธรรม มีจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของภาคอีสาน สามารถมองเห็นแม่น้ำโขงที่ไหลโค้งไปมาอย่างสวยงาม และยังสามารถมองเห็นฝั่ง สปป.ลาลาวได้อย่างชัดเจน

ปัจจุบันมีการสร้างสกายวอล์ค กระจกใสแห่งแรกของเมืองไทย จัดเป็นจุดชมวิวใหม่ของอีสาน มีลักษณะเป็นรูปเกือกม้าทางเดินกระจกใสที่ยื่นออกไปจากหน้าผาบริเวณวัดผาตากเสื้อ สามารถรองรับน้ำหนักได้ประมาณ 20 คน และสร้างราวกั้นตลอดแนวสองด้าน โปรดช่วยกันรักษาความสะอาดทางสถานที่มีรองเท้าให้เปลี่ยนสำหรับเดินชมวิวบนสกายวอร์ค ถ้าไปเที่ยวช่วงหน้าหนาวท่านสามารถเห็นทะเลหมอกที่ลอยอยู่ท่ามกลางธรรมชาติป่าเขาได้อย่างชัดเจน จากนั้นเราก็เดินทางไปเมืองนครบาดาล ถ้ำเพียงดินกันต่อค่ะ

"วัดถ้ำศรีมงคล (ถ้ำดินเพียง)" เมืองนครบาดาล วัดส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงธรรมะ

ตามตำนานเล่าว่า ที่นี่เป็นทางเข้า-ออกของธิดาพญานาค ซึ่งมาหลงรักเจ้าชายของเมืองนี้บนโลกมนุษย์ แต่ครั้นพอถึงวันออกพรรษา ธิดาพญานาคต้องกลับสู่เมืองบาดาลเพื่อไปเล่นน้ำกับพญานาคด้วยกัน จนสุดท้าย เจ้าชายตามมาพบ รู้ว่าคนรักของตนเป็นพญานาคจึงขอตัดขาดจากกันที่ถ้ำแห่งนี้

ถ้ำดินเพียง ทางเข้าถ้ำจะเป็นบันไดลึกลงไปใต้ดิน ภายในถ้ำมีความคดเคี้ยว ซับซ้อน และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและยังมีการประดับไฟสีต่างๆ ให้บรรยากาศที่เปลี่ยนไปในแต่ละจุดไม่อนุญาตให้เข้าไปตามลำพัง ทางสถานที่มีไกด์ท้องถิ่นพาเข้าไป ส่วนค่าใช้จ่ายมีตู้รับบริจาคด้านทางออก ตามแต่ท่านจะให้เป็นสินน้ำใจ

มาถึงหนองคายแล้วห้ามพลาด ทางคณะได้พาทุกท่านเข้ากราบสักการะ หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย พร้อมทำบุญ ถวาย "มหาสังฆทาน" ถวาย "เทียนจำนำพรรษา" โดยพร้อมเพรียงกัน

หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย เป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่เมือง ประดิษฐานอยู่ที่วัดโพธิ์ชัย ซึ่งมีฐานะเป็นวัดอารามหลวง เป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสีสุก หน้าตักกว้าง 2 คืบ 8 นิ้ว ส่วนสูงจากพระชงฆ์เบื้อล่างถึงยอดพระเกศ ๔ คืบ ๑ นิ้วของช่างไม้

ประวัติการสร้าง

สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานไว้ในหนังสือประวัติพระพุทธรูปสำคัญ ซึ่งพิมพ์แจกในงานทอดกฐินพระราชทาน พ.ศ. 2468 ว่า หลวงพ่อพระใส เป็นพระพุทธรูปหล่อในสมัยล้านช้าง และตามตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาว่า พระธิดา 3 องค์ แห่งกษัตริย์ล้านช้างเป็นผู้สร้าง บางท่านก็ว่าเป็นพระราชธิดาของพระไชยเชษฐาธิราช ได้หล่อพระพุทธรูปขึ้น 3 องค์ และขนานนาม พระพุทธรูปตามนามของตนเองไว้ด้วยว่า พระเสริมประจำพี่ใหญ่ พระสุกประจำคนกลาง พระใสประจำน้องสุดท้อง มีขนาดลดหลั่นกันตามลำดับ

การประดิษฐาน

เดิมทีนั้นหลวงพ่อพระใสได้ประดิษฐาน ณ เมืองเวียงจันทน์ พ.ศ. ๒๓๒๑ สมัยกรุงธนบุรีได้อัญเชิญไปไว้ที่เมืองเวียงคำ และถูกเชิญมาประดิษฐานไว้ที่วัดโพนชัย เมืองเวียงจันทน์อีก ต่อมาในรัชกาลที่ ๓ เจ้าอนุวงศ์ เมืองเวียงจันทน์เป็นกบฎ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิ์พลเสพย์ เป็นจอมทัพยกพลมาปราบ จึงได้อัญเชิญพระสุก พระเสริม และพระใส ลงมาด้วย โดยอัญเชิญมาจากภูเขาควายขึ้นประดิษฐานบนแพไม้ไผ่ ซึ่งผูกติดกันอย่างมั่นคงล่องมาตามลำน้ำงึม เมื่อล่องมาถึงตรงบ้านเวินแท่นในขณะนั้น เกิดอัศจรรย์แท่นของพระสุกได้เกิดแหกแพจมลงไปในน้ำ โดยเหตุที่มีพายุพัดแรงจัด และบริเวณนั้นได้นามว่า "เวินแท่น"

การล่องแพก็ยังล่องมาตามลำดับจนถึงน้ำโขง (ปากน้ำงึม) เฉียงกับบ้านหนองกุ้ง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ได้เกิดพายุใหญ่ เสียงฟ้าคำรามคะนองร้องลั่น ในที่สุดพระสุกได้แหกแพจมลงไปในน้ำ ซึ่งอาการวิปริตต่างๆ ก็ได้หายไปเป็นอัศจรรย์ยิ่ง บริเวณนั้นจึงได้ชื่อว่า "เวินสุก" และพระสุกก็จมอยู่ในน้ำตรงนั้นมาจนถึงปัจจุบันนี้

ก็ยังเหลือแต่พระเสริม พระใส ที่ได้นำขึ้นมาถึงเมืองหนองคาย พระเสริมนั้นได้ถูกอัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ วัดโพธิ์ชัย ส่วนพระใส ได้อัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ วัดหอก่อง (ปัจจุบันคือวัดประดิษฐ์ธรรมคุณ)

ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๔ สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้ขุนวรธานีและเจ้าเหม็น (ข้าหลวง) อัญเชิญพระเสริม จากวัดโพธิ์ชัย หนองคายไปกรุงเทพฯ และอัญเชิญพระใสจากวัดหอก่องขึ้นประดิษฐานบนเกวียนจะอัญเชิญลงไปกรุงเทพฯ ด้วย แต่พอมาถึงวัดโพธื์ชัย หลวงพ่อพระใสได้แสดงปาฏิหาริย์จนเกวียนหักจึงอัญเชิญลงไปไม่ได้ ได้แต่พระเสริมลงกรุงเทพฯ ประดิษฐาน ณ วัดปทุมวนาราม ส่วนหลวงพ่อพระใสได้อัญเชิญประดิษฐาน ณ วัดโพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย จนถึงปัจจุบัน ความอัศจรรย์ของหลวงพ่อพระใสจนได้สมญาว่า "หลวงพ่อเกวียนหัก" *ที่มา http://www.dhammathai.org/thailand/bi24.php

ปิดท้ายด้วยการเก็บภาพที่ระลึก ริมฝั่งโขง บริเวณหน้าวันลำดวน ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยความอิ่มเอิบ สบายกาย สบายใจ แถมความโชคดีตามมากกับอีกหลายๆ ท่าน เรียกได้ว่าพบความโชคดีกันถ้วนหน้าเลยที่เดียว ทริปหน้าไปไหนติดตามได้ที่ facebook/ครูโทนี่ นักเต้นอมิตา ทาทายัง

ขอขอบคุณที่ติดตาม แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า

ขอขอบคุณ

ครูโทนี่ นักเต้นอมิตา ทาทายัง

พาฝัน ปิ่นทอง

ภาพ ขวัญจิตร มิตรยอดวงศ์ / วิทยา  ตั๋นเจริญ 

21 กรกฏาคม 2560


บริษัท มีเดีย เน็ทเวิร์ค จำกัด
138, 140 ซอยอนามัย ถนนศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250
MEDIA NETWORK Co.,Ltd
138, 140 Soi Anamai Srinakarin Road Suanluang Suanluang Bangkok 10250
Tel. 02 721 4417 Fax. 02 721 5516
E-mail : phototechthailand@gmail.com


ติดต่อโฆษณาหรือข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 02 721 4417 , 097 921 2929 คุณขวัญ

แฟนเพจ Phototech Magazine


ออกแบบโดย touronthai