ททท.จัดมหากรรมเทศกาล “อาหารถิ่น กินตามตำนาน” เตรียมอาหารถิ่นให้ลิ้มลองเพียบ
ททท. จัดใหญ่เทศกาล “อาหารถิ่น กินตามตำนาน” Thai – Eat – Art – Gastronomy ณ แหลมแท่น บางแสน จังหวัดชลบุรี เปิดประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวสัมผัสอาหารไทยในตำนานที่หลากหลาย และเรียนรู้นิทรรศการมีชีวิตกับพืชสมุนไพรไทย
นางสุจิตรา จงชาณสิทโธ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) (คนซ้าย)
นางสุจิตรา จงชาณสิทโธ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. ได้ร่วมกับจังหวัดชลบุรี และเทศบาลเมืองแสนสุข จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด “อาหารถิ่น กินตามตำนาน” ขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้จากการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน อันเป็นกลไกหนึ่งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยใช้อาหารไทยที่มีเอกลักษณ์เป็นสินค้าในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ใช้ชื่องานว่า “เทศกาลอาหารถิ่น กินตามตำนาน : Thai – Eat – Art – Gastronomy” ณ บริเวณลานอเนกประสงค์แหลมแท่น ชายหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี ในวันที่ 29 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 12.00 น.เป็นต้นไป
นางสุจิตรา กล่าวเพิ่มเติมว่า กิจกรรมภายในงาน“อาหารถิ่น กินตามตำนาน” ที่จัดขึ้นในปีนี้ นับว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะได้จัดให้มีกิจกรรมอย่างหลากหลาย โดยแบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ เช่น โซนชวนชิมอาหารถิ่น ที่มีการนำสุดยอดอาหารถิ่นและอาหารขึ้นชื่อของแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศมาจำหน่าย จำนวน 50 ร้านค้า เพื่อให้นักท่องเที่ยวลิ้มลองกันอย่างเต็มที่ อาทิ กุ้งเผา กุ้งอบเกลือ จากชมรมกุ้งแม่น้ำปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ผัดไทยกุ้ง/ปู ผักกระชับ จากร้านผัดไทยร้อยปีบ้านทางเกวียน จังหวัดระยอง หมูย่างเมืองตรัง จังหวัดตรัง ส้มตำไก่ย่างเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น แหนมเนือง จากร้านแดงแหนมเนือง จังหวัดหนองคาย แกงฮังเล ลาบคั่ว น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู จากร้านแกงร้อนบ้านสวน จังหวัดเชียงใหม่ ขนมเกสรดอกลำเจียก ขนมไข่ปลา ขนมกลีบลำดวน จากร้านพรพรรณ จังหวัดอ่างทอง เป็นต้น
ขณะเดียวกันยังมีโซนอาหารถิ่นและของกินเมืองชลบุรี ที่ได้คัดสรรและรวบรวมร้านอาหารชื่อดังในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จำนวน 60 ร้านค้ามาให้ได้รับประทานกันภายในงาน อาทิ ข้าวหลามชอต ร้านแม่สุภาพร น้ำพริกไข่ปู ร้านอาหารชายหาด ทอดมันปลาแซลม่อน ร้านปะการัง พายข้ามหลามโคน จากโรงแรมเดอะไทด์ ไข่หมึกทอด ปลาไข่ทอด จากร้านมัจฉาทรงครรภ์ เป็นต้น เรียกได้ว่าชิมได้ครบ จบในที่เดียว
สำหรับโซนนิทรรศการ “Thai – Eat – Art – Gastronomy” ในรูปแบบของนิทรรศการมีชีวิต มุ่งเน้นการให้ความรู้ ความเป็นมาของวัตถุดิบของอาหารถิ่น อีกทั้งยังมีนำเสนอเรื่องราวของ 10 เส้นทางสายกิน อาหารถิ่น ในตำนาน เพื่อเป็นข้อมูลการเดินทางไปเพื่อชิมอาหารภูมิภาคต่างๆ นอกจากนี้ยังโซนกิจกรรม DIY ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวฃได้ร่วมกิจกรรมทดลองทำอาหารถิ่นแบบง่ายๆ ลักษณะหมุนเวียนกันไปเพื่อให้ได้พบกับหลากหลายเมนู โดยมีชุดทดลองทำอาหารจัดเตรียมไว้ 600 ชุด ตลอดทั้ง 3 วันของการจัดงาน
นอกจากนี้ ยังมีหนึ่งความน่าสนใจ คือ การนำสมุนไพรไทยมาจัดแสดงในลักษณะนิทรรศการที่มีชีวิต ในรูปแบบของ สวนแนวตั้งที่แปลกตาชวนมอง ประกอบด้วยสมุนไพรหลากชนิดที่มากด้วยสรรพคุณทางยาและเป็นอาหาร ผู้เข้าชมงานจะได้รู้จัก ศึกษาและเรียนรู้ รวมทั้งได้ชิมสมุนไพรหลายชนิดที่นำมาแสดงเพื่อให้ทราบถึงรสชาติ ที่มีความเฉพาะตัวของพืชสมุนไพรแต่ละชนิด อาทิ รางจืด ที่มีสรรพคุณแก้พิษ แป๊ะตำปึง ที่ยอดอ่อนใช้ เป็นส่วนผสมในการต้มไก่กระดูกดำ ขณะที่ราก ก้าน และใบ มีสรรพคุณที่ช่วยทำให้เลือดเย็น ช่วยกระจายโลหิต แก้เส้นเลือดอุดตันและแก้อาการตกเลือด หม่อนกินผล ที่มีสรรพคุณช่วยดับร้อน เป็นต้น
ขณะเดียวกันยังจัดให้มีการสาธิตและให้ความรู้ถึงวิธีการปรุงอาหารถิ่นของแต่ละภูมิภาคในรูปแบบ Fusion โดยเชฟแนตตี้ นภาวดี พยัคฆโส รวมถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดเตรียมวัตถุดิบ การคำนวณต้นทุน-กำไร เคล็ดลับการปรุงจนถึงการหาทำเลเพื่อประกอบการค้า ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่สนใจนำไปต่อยอดเพื่อการสร้างอาชีพและรายได้ต่อไปในอนาคต
พร้อมกันนี้ในเทศกาลอาหารถิ่น กินตามตำนาน ยังจัดให้มีมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินมากมาย โดยในวันที่ 29 มิถุนายน 2561 พบกับมินิคอนเสิร์ตศิลปิน ไอซ์ ศรัณยู และ ว่าน ธนกฤต วันที่ 30 มิถุนายน 2561 พบกับมินิคอนเสิร์ตศิลปิน The Mousses และ Klear และในวันที่ 1 กรกฎาคม 2561 พบกับมินิคอนเสิร์ตศิลปิน Season Five และ บอย พีซเมคเกอร์ ซึ่งนอกจากมินิคอนเสิร์ตดังกล่าวแล้วยังมีการแสดงต่าง ๆ ที่น่าสนใจ อีกมากมาย
รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวเพิ่มเติมในตอนท้ายว่า เทศกาลอาหารถิ่น กินตามตำนาน ในครั้งนี้ นับเป็นการจัดงานที่นำเสนออาหารไทยที่ยิ่งใหญ่อีกงานหนึ่งของประเทศ ภายใต้ความร่วมมือ ททท. จังหวัดชลบุรี และเทศบาลเมืองแสนสุข ซึ่งคาดว่า จะก่อให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว ข้ามภาค และรายได้หมุนเวียนในท้องถิ่นแก่ผู้ประกอบการร้านอาหาร และชุมชนในท้องถิ่น รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวรู้ถึงคุณค่าอาหารไทยแบบลึกซึ้ง หรือ Local Experience ที่เน้นการนำวัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาปรุงอาหารให้เป็นที่รู้จักทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่า การจัดงานตลอด 3 วัน จะมีนักท่องเที่ยวมาชมงาน ไม่น้อยกว่า 80,000 คน และสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท
30 มิถุนายน 2561