ท่องเที่ยวเชิงรุกเชื่อมโยงภูมิภาค ส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดระยอง I

นวัตวิถี หรือการท่องเที่ยวชุมชน เป็นเทรนด์การท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยม และถูกประชาสัมพันธ์เป็นวงกว้างในทุกวันนี้ เพราะการท่องเที่ยวแบบนวัตวิถีนี้ นอกจากเราจะได้ไปยังสถานที่ใหม่ๆ ค้นหาสิ่งที่น้อยคนนั้นจะได้เห็น ได้พูดคุย ดูแลต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าของบ้าน เจ้าของชุมชน ทำให้มั่นใจได้ว่านักท่องเที่ยวจะได้รับการดูแลปละปฏิบัติอย่างดีเยี่ยม ในวันนี้แอดมินก็จะพาทุกท่านมาท่องเที่ยววิถีชุมชนในโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงรุกเชื่อมโยงภูมิภาค เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดระยอง

ภาพจากWikipedia

จังหวัดระยอง เป็นจังหวัดซึ่งไม่ห่างไกลจากกรุงเทพมากนัก เป็นจังหวัดที่อยู่ในภาคตะวันออกของประเทศ เป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย จึงส่งผลให้กลายเป็นจังหวัดที่ประชากรมีรายได้ต่อหัวสูงสุดในประเทศ และผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดอยุ่ในอันดับที่ 2ของไทย

การเดินทางในครั้งนี้เริ่มต้นจาก สถานี MRT ลาดพร้าว ก่อนที่รถจะออกเดินทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดระยอง ใช้เวลาประมาณ 3ชั่วโมงเราก็เดินทางมาถึงสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง โดยมีการต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นกันเองจาก ท่านพงษ์อนันต์ จันทร์ไพร ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง ท่านได้เล่าถึงความเป็นมาและกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในครั้งนี้ว่า จะเป็นการช่วยส่งเสริมคนในชุมชนให้มีรายได้ และเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ชุมชนต่างๆให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และให้คนมาท่องเที่ยวในจังหวัดระยองมากขึ้น หลังจากท่านได้กล่างถึงจุดประสงค์ในครั้งนี้แล้ว ทำให้ตัวแอดมินเองมีความคิดว่า ถ้าหากทุกชมชุนร่วมโชว์ของดีของเด็ดของชุมชน ของจังหวัดนั้นๆ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี และมัดใจนักท่องเที่ยว ให้หันมาเที่ยวแต่ในเมืองไทย ไม่หนีกันไปเมืองนอกเลยล่ะครับ

นายพงษ์อนันต์ จันทร์ไพร ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง

จุดแรก ชุมชนบ้านไผ่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง

ตื่นตาตื่นใจกับวิถีชุมชน การปีนเก็บต้นหมาก พักผ่อนใช้ชีวิต Slowlife ตื่นตาตื่นใจกับวิถีชุมชนในที้นี้หมายความว่าอย่างไร เราจะพาทุกท่านไปชมกัน

สิ่งที่จะทำให้ทุกคนตื่นตาตื่นใจก็คือภูมิปัญญาประดิษฐ์ อาวุธเอนกประสงค์ทรงคล้ายๆธนูซึ่งสามารถล่าสัตว์เล็กๆเพื่อมาประกอบอาหาร หรือเอาไว้ไล่สัตว์ในเหตุการณ์ต่างๆตามความเหมาะสม สิ่งที่จะทำให้ทุกคนว้าวรอบที่สอง ก็คือแอดมินจะพาทุกท่านไปเจอคุณลุงคนหนึ่งซึ่งมีความสามารถในการปีนเก็บหมาก ดูจากรูปร่างคุณลุงแล้ว รู้เลยครับคุณลุงมีสุขภาพที่แข็งแรงมากๆ มวลกล้ามเนื้อที่ขึ้นมาชัดเจนทำให้มั่นใจไ้ด้ว่าคุณลุงนี่ไม่ธรรมดาแน่ๆครับ เมื่อคุณลุงเริ่มปีนขึ้นต้นหมากเหล่าBlogger ก็ต่างแชะภาพภาพคุณลุงกันอย่างรวดเร็วเนื่องจากคุณลุงปีนต้นหมากได้เร็วมากๆ จึงได้ลูกหมากจำนวนมากวางให้ทุกท่านได้ถ่ายรูปกันอย่างจุใจ

จุดที่สอง สวนหม้อข้าว หม้อแกงลิง บ้านตาขัน

ร่วมสัมผัสพืชกินแมลงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่เจ้าของการันตีว่า ใหญ่ที่สุดในสามโลก เราจะพาทุกท่านมาร่วมพิสูจน์กัน ทันทีที่เดินทางมาถึงบ้านตาขัน ฝนก็เทลงมาห่าใหญ่ ในตอนนั้นแอดมินเองก็มองว่าฝนนี่เป็นอุปสรรคใหญ่ แอบกลัวว่าจะไม่มีรูปสวยๆมาลง แต่ผิดครับ แอดมินคิดผิด ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย ทำให้มีหยดน้ำน้อยใหญ่ ค่อยๆไหลลงจากลูกหม้อข้าว หม้อแกงลิง ยิ่งสร้างความสวยงามให้กับต้นไม้ ใบหญ้า และต้นหม้อข้าว หม้อแกงลิงเป็นอย่างมาก บรรยากาศที่มีลมพัด สลับกับฝน มีเครื่องดื่มชา กาแฟร้อนๆ มาเสริ์ฟ ยิ่งทำให้ยิ่งตกหลุมรักกับสวนหม้อข้าว หม้อแกงลิงที่นี่มากยิ่งขึ้น

จุดที่สาม เพชรแต้มสี ดินแดนความสวยงามของต้นกระบองเพชรหลากสี ที่มีมูลค่ากว่าหลายแสนบาท ต่อหนึ่งต้น ที่บ้านเพ

ใช่แล้วครับ อ่านไม่ผิดแน่นอน ราคาหลายแสนบาทต่อหนึ่งต้น เพชรแต้มสีมีที่มาจากการที่ คุณไข่มุก ฉวีวรรณากร ได้มีความหลงไหลต้นกระบองเพชร จากการเริ่มต้นปลูกจากเพียงแค่ 3ต้น ด้วยความที่รักและมุ่งมั่นทำให้ประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในประเทศไทย และทั่วโลก โดยในแต่ละเดือนจะมียอดขายมากมาย ที่ออเดอร์มาจากทั้งไทยและเทศ โดยลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่จะมาจาก ญี่ปุ่น และจีน หลังจากที่ก้าวเข้ามาในดินแดนกระบองเพชรหลากสีนี้แล้ว หลังจากทราบราคาโดยประมาณของแต่ละต้นแล้ว ทำให้แอดมินมั่นใจใน วลีที่ว่า ฝีมือคนไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก ทำให้เชื่อและภาคภูมิใจกับความสำเร็จของคนไทยนี้จริงๆเลยครับ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปชมได้ที่ https://th-th.facebook.com/PetchtamseeNursery/

คุณไข่มุก ฉวีวรรณากร

ต้นซ้ายมีมูลค่า 3xx,xxxบาท และต้นด้านขวามีมูลค่า 450,xxx บาท

จุดที่สี่ สวนพฤกษศาสตร์ นั่งเรือชมแพหญ้าหนังหมา

ความมหัศจรรย์ของพืชนานาพรรณ ที่รวมตัวกันสามารถให้คนขึ้นไปยืนเหนือผืนน้ำได้ และเป็นระบบนิเวศน์ชั้นดีของสัตว์น้ำน้อยใหญ่ แหล่งเรียนรู้ธรรมชาติพื้นที่ชุ่มน้ำ ล่องเรือชมความงามทางธรรมชาติบนบึงน้ำขนาดใหญ่ ตื่นตาไปกับพรรณไม้ท้องถิ่น สนุกไปกับการเดินบนน้ำกับแพหญ้าหนังหมา สวนพฤกษศาสตร์ระยอง ตั้งอยู่ในพื้นที่บึงสำนักใหญ่ (บึงจำรุง) ตำบลชากพง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์น้ำ พรรณไม้น้ำ ป่าเสม็ด เฟิร์น ต้นชะมวง และนกหลายชนิด

จุดที่ห้า วัดถ้ำวัฒนมงคล

เยี่ยมชมเจดีย์องค์ใหญ่ ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แหล่งรวมวัตถุมงคลสมัยโบราณตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เสมือนเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บวัตถุมงคลให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้มาเห็น ศิลปะในยุคต่างๆผ่านวัตถุมงคล และพระพุทธรูป โดยในครั้งนี้เราก็ได้รับเกียรติจากพระครูผู้ที่ดูแลวัดได้มาให้ข้อมูลในเชิงประวัติศาสตร์ ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และเจดีย์วัดที่สูงสง่ากว่า 52เมตรนี้ โดยการสร้างเน้นความคงทนถาวร สามารถมีอายุได้นับพันปี จึงทำให้ใช้เวลาในการสร้าง แต่ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มที่จะสมบูรณ์ และสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ทุกวัน

จุดที่หก วัดถ้ำเขาประทุน ต.เขาน้อย อ.เขาชะเมา จังหวัดระยอง

เหล่ามัคคุเทศก์น้อย

วัดถ้ำเขาประทุน จะมีถ้ำใหญ่ๆอยู่สองจุด จุดแรกเราสามารถเดินเข้าไปไหว้พระประจำวันเกิดของตัวเอง หรือจะเดินเยี่ยมชมถ้ำเข้าไปเรื่อยๆ และจะไปสิ้นสุดที่จุดที่ชาวบ้านเชื่อกันว่า เป็นจุดที่ถ่ายรูปจะเห็นแสงของพญานาค โดยแอดมินก็ร่วมสำรวจถ้ำ และพบกับบรรยากาศที่เงียบสงบ มีความเย็น และอากาศที่อาจจะไม่โปร่งมากนัก แต่ไม่ถึงกับทำให้เราอึดอัด โดยภายในถ้ำก็จะมีคล้ายกับปฏิมากรรมในรูปต่างๆ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับจินตนาการ และความเชื่อของแต่ละบุคคล

ต่อมาทางแอดมินและทีมงานก็ได้มีโอกาสไปสำรวจถ้ำอีกจุดในวัดถ้ำเขาประทุน โดยถ้ำนี้มีชื่อเรียกว่า ถ้ำหุบผาสวรรค์ ความอันซีนที่ถูกค้นพบในวัด ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาจะต้องนั่งเรือรอดถ้ำ บ้างอาจจะต้องนอนราบ บ้างอาจจะต้องก้มหน้าลงสุด ขึ้นอยู่กับความถนัดแต่ละคน แต่รับรองได้เลยว่าความอันซีนนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวทุกคนประทับใจ ด้วยทั้งความสวยของถ้ำ อากาศที่ถ่ายเทตลอดภายในถ้ำ และความเงียบสงบของสถานที่ปฏิบัติธรรมภายใน และในตัวถ้ำเอง หลังจากที่เรารอดถ้ำกันแล้วเราก็จะได้พบกับลานปฏิบัติธรรมขนาดใหญ่ สามารถรองรับคนได้จำนวนมาก ถ้ำนาคี เดิมชาวบ้านเคยเห็นงูตัวใหญ่ เลื้อยเข้าออก และขดตัวอยู่ในถ้ำ จึงเป็นที่กล่าวขานว่าเป็นถ้ำของนาคี ถ้ำของพญานาคนั่นเอง

นอกเหนือจากนั้นในจุดนี้ยังมีหินที่ถูกน้ำกัดเซาะจนเป็นรูปคล้ายพระพุทธบาท รอยเท้าของพระพุทธเจ้า ชาวบ้านเชื่อกันว่าน้ำที่อยู่ในรอยพระพุทธบาทนี้เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ สามารถเอาน้ำที่อยู่ในนี้มาลูบที่ศีรษะเพื่อความเป็นศิริมงคลได้

จุดที่เจ็ด มุ่งหน้าสู่ปากน้ำประแสร์ แหล่งชุมชนที่มากล้นด้วยสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และ ความเชื่อ

แอดมินและทางทีมงานมั่นใจได้เลยว่าหากนักท่องเที่ยวได้มาท่องเที่ยวที่ระยองแล้ว คงไ่ม่พลาดที่จะมานั่งรถพ่วงข้างในชุมชนปากน้ำประแสร์ โดยโปรแกรมก็จะเหมือนๆทั่วไปก็คือ เดินทางไปสักการะเสด็จเตี่ย หรือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาของทหารเรือไืทย

หลังจากนั้นก็เดินทางวัดตะเคียนงาม วัดนี้จะคึกคักมากๆในช่วงต้นเดือนและกลางเดือน นักเสี่ยงโชคจากทุกสารทิศจะเดินทางมาเพื่อขอโชคขอลาภจากเจ้าแม่ตะเคียน ซึ่งมีอายุกว่าหลายร้อยปี โดยลำต้นมีขนาดใหญ่กว่า 20คนโอบ เป็นอีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านต่างเคารพ และเข้ามากราบไหว้กันอย่างไม่ขาดสาย