BEAT บางหว้า Interchange คอนโดเรียบหรู ตอบโจทย์ทุกจังหวะของชีวิต พร้อมเปิด Pre-sale 17-18 พ.ย.นี้

“บางหว้า”  ณ เวลานี้ กล่าวได้ว่า เป็นอีกหนึ่งทำเลที่ได้รับอิทธิพลจากรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย โดยเฉพาะสถานีปลายทางบางหว้า ที่เป็นจุดตัด BTS ส่วนต่อขยายสายสีเขียว(ตากสิน-บางหว้า) กับ MRT สายสีน้ำเงิน(บางซื่อ-หลักสอง)ที่จะเปิดให้บริการในปี 2562 นั้นทำให้ที่นี่เป็น Intersection hub transit ที่สมบูรณ์เชื่อมต่อทุกการเดินทางครบทั้งระบบ รถ-ราง-เรือ ของกรุงเทพฯที่คลองภาษีเจริญทำให้มีความสะดวกในการเดินทางเชื่อมเมืองสู่เมือง ด้วยเหตุนี้ ทำให้ทำเลส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสถานี บางหว้า อินเตอร์เชนจ์ กลายเป็นทำเลทอง น่าลงทุน โดยได้รับอิทธิพลจากแหล่งความเจริญศูนย์กลางธุรกิจ (CBD: Central Business District) ใหญ่ทั้ง สาทร สีลม พระราม 4 ทำเลที่จะเกิดการสร้างงานอย่างมากในอนาคตอันใกล้จากโครงการ Mixed-ues ส่งผลให้มีความต้องการ (demand) ที่อยู่อาศัยมหาศาล เห็นได้จากการขึ้นแบรนด์ชนแบรนด์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ...และทำเล“บางหว้า” นี้ยังจะเป็นที่ตั้งโครงการ “ บีท บางหว้า อินเตอร์เชนจ์” (BEAT BANGWA INTERCHANGE) คอนโดมิเนียมใหม่โครงการแรกของ บริษัท นอร์ธแลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด ผู้ประกอบการอสังหาฯรายใหญ่จาก จ.สระบุรี

นายนพดล ธรรมวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท นอร์ธแลนด์ ดีเวลลนอปเม้นต์ จำกัด

นายนพดล ธรรมวิวัฒน์ เปิดเผยว่าโครงการ “ บีท บางหว้า อินเตอร์เชนจ์” เป็นโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยโครงการแรกที่เป็นคอนโดฯและเป็นการพัฒนาที่อยู่อาศัยโครงการที่ 2 ของบริษัทฯในกรุงเทพฯ จากที่ก่อนหน้าได้พัฒนาโครงการ  D8 “Luxury Vertical House” ย่านเอกมัย-รามอินทรา โครงการร่วมทุนกับบริษัทเดวา เรียลเอสเตท จำกัด (ของกลุ่มนายเลิศมงคล วราเวณุชย์) โครงการเจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ที่ต้องการอยู่อาศัยในเมืองทำเลไม่ไกลจาก CBD ตอบโจทย์ด้วยพื้นที่ใช้สอยมากกว่า คอนโดมิเนียม มีเอกลักษณ์ด้านดีไซน์  คุ้มค่าด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนตัวครบครัน ทั้งลิฟท์ สระว่าย พร้อมที่จอดรถ 6 คัน พื้นที่ใช้สอยกว่า 700 ตารางเมตร(ตร.ม.) รองรับผู้อยู่อาศัยครอบครัวใหญ่ได้ถึง 3 เจนเนอเรชั่น ในราคาเริ่มกว่า 30 ล้านบาท สำหรับโครงการ “ บีท บางหว้า อินเตอร์เชนจ์” พัฒนาภายใต้แนวคิด “ใช้ทุกจังหวะชีวิตที่เป็นคุณ” เป็นคอนโดฯ Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ มูลค่าโครงการเกือบ 890 ล้านบาท มีจำนวนห้องพักอาศัย 402 ยูนิต พื้นที่สำหรับร้านค้า 1 ยูนิต มีที่จอดรถ 135 คัน(ไม่รวมจอดซ้อนคัน) หรือคิดเป็นสัดส่วนพื้นที่จอดรถประมาณ 39 % โดยคอนโดฯอาคาร A มีจำนวน 134 ยูนิต ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 27 ยูนิต ส่วนคอนโดฯอาคาร B จำวน 268 ยูนิต ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 35 ยูนิต ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างช่วงต้นปี 2562 คาดกำหนดแล้วเสร็จปี 2563 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ให้การสนับสนุนสินเชื่อโครงการ

โครงการดังกล่าวมีห้องชุดให้เลือก 3 แบบ ดังนี้ แบบ 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 25.7-31.8 ตร.ม. จำนวน 323 ยูนิต , แบบ 1ห้องนอน พลัส ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 32.6-39.9 ตร.ม. จำนวน 39 ยูนิต และ แบบ 2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 45.9-51.1 จำนวน 40 ยุนิต ราคาเริ่ม 65,000 บาทต่อตร.ม.หรือราคาเริ่มต้นที่ 1.59 ล้านบาทต่อยูนิต เปิด Pre-Sale 17-18 พฤศจิกายน 2561 ณ สำนักงานขายโครงการ ลง BTS บางหว้าทางออกที่ 4  สนใจสอบถามได้ที่เบอร์โทร 02-023-3488 , 063 -217-6565 หรือ www.beatcondo.com มั่นใจจุดเด่น “ทำเล-ราคา – โปรดักส์” ตอบโจทย์ลูกค้าเป้าหมาย

นายนพดลกล่าวอีกว่า “ เรามั่นใจในศักยภาพของทำเลที่ตั้ง และระดับราคาขายทำให้ลูกค้าเป้าหมายเข้าถึงที่ให้ครบทุกฟังก์ชั่นการใช้สอยทั้งในห้องพักอาศัยและจากพื้นที่ส่วนกลาง” นายนพดล กล่าว พร้อมกับขยายความว่า ด้วยศักยภาพด้าน “ทำเล” ที่ตั้งโครงการทางเชื่อมรถไฟฟ้า BTS บางหว้า และ รถไฟฟ้า MRT บางหว้า 280 เมตร ที่ทุกการเดินทางนั้นง่ายและสะดวกทั้งเข้าเมืองและออกนอกเมือง ด้วยจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียว และสายสีน้ำเงิน รวมถึงการเดินทางทางเรือที่ท่าเรือคลองภาษีเจริญ มีเส้นทางที่เชื่อมต่อเส้นทางหลักๆทั้ง ย่านสาทร, เทอดไท, วุฒากาศ, ราชพฤกษ์, ไอคอน สยาม ,จอมทอง, กัลปพฤกษ์ และเพชรเกษม ฯลฯ อีกทั้งยังทำให้ง่ายในการใช้ชีวิตที่อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย โรงพยาบาล และศูนย์การค้า อาทิ มหาวิทยาลัยสยาม, โรงเรียนนานาชาติ British Columbia, โรงพยาบาล พญาไท 3 ,ซีคอน บางแค,เดอะมอลล์ บางแค และศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายบนถนนราชพฤกษ์ เป็นต้น 

ด้าน “ราคา” เริ่มต้นที่ 60,000 กว่าบาทต่อ ตร.ม.เป็นราคาที่ฐานลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อได้เมื่อเทียบกับราคาขายโครงการอื่นในย่านเดียวกันที่ 80,000 บาทต่อตร.ม.ถือว่าราคาขายคอนโดฯโครงการ “ บีท บางหว้า อินเตอร์เชนจ์” นั้น “คุ้มค่า คุ้มราคา” กล่าวคือ กรณีที่ซื้อห้อง 1 ห้องนอนขนาด 26 ตร.ม.ราคาที่ต่างกัน 20,000 บาทนั้น เท่ากับว่าต่างกันมากถึง 500,000 บาท จำนวนเงินที่ต่างกันช่วยลูกค้าเซฟต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 3,000 บาทในการผ่อน ซึ่งลูกค้าสามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ ส่วนด้านการออกแบบห้องพักอาศัยนั้น ได้คำนึงถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นหลัก ในราคาที่คุ้มค่ากับสเปกของห้องที่ได้รับ ฟังก์ชันการใช้งานภายในห้องครบมีพื้นที่ส่วนกลางมากถึง 2,000 ตร.ม. มีสิ่งอำนวยความสะดวก (Facilities) ครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำความยาว 20 เมตร Jacuzi และพื้นที่พักผ่อนรอบสระ, Lobby, Co-working space, สวนลอยฟ้าที่อยู่ชั้น 4,ห้องฟิตเนส, ห้องเล่นเกมส์และเรียนรู้, Convenience Store, Shuttle service, CCTV รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. เป็นต้น จากจุดเด่นดังกล่าว บริษัทฯมั่นใจว่าจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยโครงการ “ บีท บางหว้า อินเตอร์เชนจ์” เน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย กลุ่มคนวัยทำงาน หรือเริ่มต้นชีวิต กลุ่ม Gen Y ระดับรายได้ กลาง-ล่าง ที่ทำงานย่านสาทร สีลม ต้องการซื้อบ้านหลังแรก หรือต้องการที่พักหลังที่สองใกล้ที่ทำงาน เดินทางโดยรถไฟฟ้าเป็นหลัก

เล็งเพิ่มทุนรองรับแผนเปิดโครงการใหม่-ระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์

กล่าวได้ว่าโครงการ “ บีท บางหว้า อินเตอร์เชนจ์” คอนโดฯใหม่โครงการแรกของ บริษัท นอร์ธแลนด์ ดีเวลลนอปเม้นต์ จำกัด กลุ่มทุนจาก จ.สระบุรีที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบมานานกว่า 20 ปี ภายใต้แบรนด์ ธารา ฟ้าใส มีโครงการที่พัฒนามาแล้วกว่า 20 โครงการรวมมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท และเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจรวมถึงการขยายการเปิดตัวโครงการใหม่ๆนั้น กรรมการผู้จัดการบริษัทนอร์ธแลนด์ ฯ กล่าวว่าบริษัทฯมีแผนเพิ่มทุน จดทะเบียนจากปัจจุบัน 50 ล้านบาทเป็น 100 ล้านบาทในปี2562 และจะเพิ่มเป็น 200 ล้านบาท ในปี 2563 รองรับแผนเบื้องต้นที่จะนำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมี บริษัท แคปปิตอล ลิ้งค์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ส่วนการลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯนั้น ในปี 2562 มีแผนพัฒนาโครงการใหม่ในจ.สระบุรี อีก 2 โครงการ รวมจำนวน 300 ยูนิต ราคาประมาณ 2-3 ล้านบท รวมมูลค่าโครงการกว่า 800 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังมีแผนที่จะขยายทำเลการลงทุนโครงการคอนโดฯในกรุงเทพฯเพิ่มอีกประมาณ 2 โครงการมูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาทในทำเลสุขุมวิทตอนปลาย และทำเลแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ย่านรัชดาฯ- ลาดพร้าว ตั้งเป้ามูลค่าโครงการรวม 2,000  ล้านบาทในปี 2562 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 4,000 ล้านบาทในปี 2565 นักวิจัยมั่นใจ “บางหว้า” อีกทำเลศักยภาพ

นายสุรเชษฐ กองชีพ นักวิจัยตลาดอสังหาริมทรัพย์

ด้านนายสุรเชษฐ กองชีพ เปิดเผย พื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าบางหว้าเป็นอีกพื้นที่ที่น่าสนใจและน่าจับตามองในอนาคตเพราะสถานีบางหว้ามีความเป็นชุมชนมาก่อนหน้านี้แล้วและหลังจากที่รถไฟฟ้าสถานีบางหว้าเปิดให้บริการสถานีนี้เป็น 1 ในสถานีที่มีคนใช้บริการรถไฟฟ้าอันดับต้นๆ แม้ว่าจะเป็นสถานีรถไฟฟ้าปลายทางก็ตาม โดยมีประชาชนเดินทางเพิ่มจากประมาณ 70,000-80,000 คนต่อวัน เป็นประมาณ 100,000 คน อีกทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย ศูนย์การค้า และอื่น ๆ  ผู้ประกอบการให้ความสนใจกับพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าบางหว้ามาก่อนหน้านี้หลายปีแล้วตั้งแต่ก่อนที่สถานีบางหว้าจะเปิดให้บริการปีในพ.ศ.2556 เพราะเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่ข้ามสะพานตากสินมาถึงสถานีบางหว้านั้นเสร็จสมบูรณ์มาหลายปีก่อนหน้านี้แล้วเพียงแต่รอการติดตั้งระบบเดินรถไฟฟ้าเท่านั้น ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงมั่นใจว่าอย่างไรก็ตามสถานีรถไฟฟ้าบางหว้าจะต้องเปิดให้บริการแน่นอนในอนาคต จึงมาหาซื้อที่ดินและเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมกันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพียงแต่มีจำนวนไม่มากนักและเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่มีราคาขายไม่สูงมากนัก


ภายหลังการเปิดให้บริการแบบสมบูรณ์ของสถานีรถไฟฟ้าบางหว้าในช่วงปลายปีพ.ศ.2556 จึงเริ่มมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายมากขึ้นและต่อเนื่องแบบเห็นได้ชัด เพียงแต่ที่ดินรอบๆ สถานีรถไฟฟ้าบางหว้ามีไม่มากนักโดยเฉพาะที่ดินที่อยู่ในแนวถนนเพชรเกษมเพราะเป็นอาคารพาณิชย์ตลอดทั้ง 2 ฝั่ง ผู้ประกอบการบางรายจึงจำเป็นต้องเลือกที่ดินที่อยู่ไกลออกไปหรือไม่ได้อยู่บนถนนเพชรเกษมจำนวนคอนโดมิเนียมสะสมรอบสถานีรถไฟฟ้าบางหว้าจึงมีไม่มากนัก โดย ณ ปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมที่เปิดขายแล้วก่อนหน้านี้สะสมอยู่ในพื้นที่อยู่ประมาณ 5,087 ยูนิต โดยมีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในปีพ.ศ.2561 มากที่สุดคือประมาณ 1,451 ยูนิตมากที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา แต่คาดว่าเมื่อเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเปิดให้บริการในปีพ.ศ.2562 จะมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่มากขึ้นแน่นอน

ส่วนอัตราการขายเฉลี่ยคอนโดมิเนียมในพื้นที่นี้อยู่ที่ประมาณ 81% โดยโครงการที่อยู่ในพื้นที่ตามแนวถนนเพชรเกษมมีอัตราการขายเฉลี่ยสูงกว่า เพราะเป็นพื้นที่ที่มีโครงการที่เปิดขายมาหลายปีก่อนหน้านี้อยู่แล้วหลายโครงการและส่วนใหญ่ปิดการขายไปแล้ว โครงการที่อยู่ไกลออกไปจากสถานีรถไฟฟ้าบางหว้ามีอัตราการขายเฉลี่ยที่ไม่สูงมากนักโดยเฉพาะในโครงการที่เปิดขายใหม่และมีราคาขายเริ่มต้นมากกว่า 80,000 บาทต่อตารางเมตร ในขณะที่ยังมีโครงการที่สร้างเสร็จแล้วและมีราคาขายต่อต่ำกว่า 80,000 บาทต่อตารางเมตรเหลืออยู่ รวมไปถึงในพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าก่อนหน้านี้ เช่น ตลาดพลู และวุฒากาศ เป็นต้น  ทั้งนี้ราคาคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7.5% ต่อปีตามแนวถนนเพชรเกษม แต่ห่างจากถนนเพิ่มขึ้นประมาณ 4.2% ต่อปี

สำหรับคอนโดมิเนียมสะสมที่กระจายอยู่ทั่วกรุงเทพมหานครมีประมาณ 500,000 แสนยูนิต ขายไปประมาณ 42,000 ยูนิต ส่วนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณรอบสถานีรถไฟฟ้า 60%

7 พฤศจิกายน 2561


บริษัท มีเดีย เน็ทเวิร์ค จำกัด
138, 140 ซอยอนามัย ถนนศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250
MEDIA NETWORK Co.,Ltd
138, 140 Soi Anamai Srinakarin Road Suanluang Suanluang Bangkok 10250
Tel. 02 721 4417 Fax. 02 721 5516
E-mail : phototechthailand@gmail.com


ติดต่อโฆษณาหรือข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 02 721 4417 , 097 921 2929 คุณขวัญ

แฟนเพจ Phototech Magazine


ออกแบบโดย touronthai