โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จังหวัดจันทบุรี II
6. บ้านปะตงล่าง หมู่ ๕ ตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี
“สุขทุกวันที่จันทบุรี สุขทุกวินาทีที่ทรายขาว หมู่บ้านช้างใหญ่ กระวานพันธุ์ดี น้ำตกเขาสอยดาว การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์”
ประวัติความเป็นมา
หมู่บ้านทอยู่ห่างจากตัวอำเภอ ๓ กม. เดิมเป็นหมู่บ้านที่มีคนไทย จีน ขอม (เขมร) ย้ายถิ่นมา ตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีการแบ่งพรมแดนประเทศที่ชัดเจน ในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ มีการตั้งรกรากสร้างบ้านทำการเกษตรในพื้นที่บริเวณวัดปะตง และบ้านนา ปะตง เป็นภาษาเขมรแปลว่า เที่ยงตรง โดยมีเรื่องเล่าว่า มีพระเดินธุดงค์เดินทางมาถึงบริเวณนี้ตอนเที่ยงตรงพอดี
สำนักกระวานเขาสอยดาว
กระวานที่บ้านปะตงล่างได้ชื่อว่ามีคุณภาพดีที่สุดในประเทศไทย เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับการปลูกและเพาะพันธุ์กระวาน จึงเกิดเป็นสำนักกระวานขึ้น โดยสํานักกระวานเป็นเพิงที่พักอยู่อาศัยระหว่างที่ทำการเก็บเกี่ยวกระวานวิธีการเก็บกระวานจะเก็บ ช่อร่วงที่ออกบริเวณใต้โคนต้นซึ่งจะออกเฉพาะต้นที่อยู่บนภูเขาเท่านั้นแล้วนำเมล็ดกระวานไปย่างไฟให้แห้ง สํานักกระวานจึงจำเป็นต้องก่อไฟไว้ตลอดเพื่อใช้ย่างกระวานและเพื่อเป็นสัญญาณไว้กันสัตว์ป่า
หอชมช้าง
หมู่บ้านปะตงล่าง เป็นหมู่บ้านที่มีโขลงช้างให้พบเห็นอยู่เสมอ จึงมีการสร้างหอสังเกตการณ์ไว้สังเกตการณ์เส้นทางเดินของช้าง สำหรับนักท่องเที่ยวจะได้ร่วมกิจกรรมยิงกระสุนพันธุ์ไม้ป่า เพื่อเป็นการขยายพันธุ์ต่อไป
นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวเช็คอินมากมาย อาทิเช่น ศาลเจ้าพ่อสอยดาว, น้ำตกเขาสอยดาว, ศาลาอายุ ๔,๐๐๐ ปี
ผลิตภัณฑ์
กังหัน ไอศกรีม แคปหมู หมูยอ สุ่มไก่ ชากระวาน น้ำดื่มสมุนไพร มีดประดิษฐ์ ปุ๋ยหมัก ลำไยอบแห้ง
ข้อมูลติดต่อ
บ้านปะตงล่าง หมู่ ๕ ตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี
คุณสุกี้ โทร. ๐๙๒ ๒๖๓ ๕๔๓๘
7. บ้านเตาถ่าน หมู่ ๕ ตำบลทุ่งขนาน อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี
“เตาถ่านพัฒนา ประปาดื่มได้ ค้าขายชายแดนเขมร เน้นวัฒนธรรมสืบสาน งานบุญร่วมใจ ห่างไกลยาเสพติด
ช่วยกันคิดช่วยกันทำ นำชุมชนสู่ความเข้มแข็ง”
ประวัติความเป็นมา
ก่อน พ.ศ. ๒๕๑๕ บ้านเตาถ่านมีสภาพทั่วไปของพื้นที่เป็นป่าดงดิบต่อมามีราษฎรจากหลายจังหวัดอพยพมาอาศัยอยู่ เพื่อประกอบอาชีพทางการเกษตรคนในชุมชนได้ใช้เศษไม้จากการทำที่อยู่อาศัยและการทำการเกษตรนำมาเผาถ่านโดยเตาเผาถ่าน มีลักษณะเป็นเตาอบ ราษฎรในพื้นที่และผู้ที่สัญจรไปมาพบเห็นว่าบริเวณแห่งนี้มีการเผาถ่านและมีเตาเผาถ่านลักษณะดังกล่าว จึงเรียกขานบริเวณแห่งนี้สืบต่อกันมาว่า “บ้านเตาถ่าน” เมื่อความเจริญเพิ่มมากขึ้นก็ได้มีราษฎรจากหลายจังหวัดอพยพเข้ามาทำกินในบริเวณแห่งนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวเช็คอินมากมาย อาทิเช่น เที่ยวชุมชนหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงเกษตรแปลงใหญ่หญ้าเนเปียร์, ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชนตามรอยประวัติศาสตร์, ชุมชนรำลึกวีรชนคนกล้าเชื่อมโยงวัฒนธรรมสองแผ่นดินชมชิมสินค้า OTOP เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม้ของฝาก และการแปรรูปไม้ , กราบขอพรพระใหญ่วัดเขาแจงแบง
ผลิตภัณฑ์
พริกแกง ชาดาวอินคา โลชั่นดาวอินคา กระเทียมดอง ผักอินทรีย์ ข้าวอินทรีย์ ขนมถ้วย แหนมหมู แคปหมู ผ้าบาติก
ข้อมูลติดต่อ
บ้านเตาถ่าน หมู่ ๕ ตำบลทุ่งขนาน อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี
คุณเสนาะ ๐๘๑ ๑๕๕ ๐๖๒๘ คุณบุญประคอง ๐๘๑ ๒๕๙ ๗๕๒๗
8. บ้านซับตารี หมู่ ๒ ตำบลทุ่งขนาน อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี “รำลึกวีรชน ๑๙ ธันวา หอพระพุทธบูชาคู่บ้าน สืบสานวัฒนธรรมไทย บุญบั้งไฟประเพณี”
ประวัติความเป็นมา
หมู่บ้านซับตารี เป็นหมู่บ้านเขตชายแดนไทยกัมพูชา มีการเข้ามาตั้งถิ่นฐานราวปี พ.ศ. ๒๕๑๘ โดยตาหวังและตาจง ย้ายถิ่นฐานมาจากอำเภอพิบูลมังสาหารและอำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ที่เรียกว่าหมู่บ้านซับตารีเพราะบริเวณหมู่บ้านมีตาน้ำซึ่งภาษาถิ่นจะเรียกว่าซับ และชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้ตาน้ำ หรือ ซับ มีชื่อว่าตารี จึงเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้าน ซับตารี ซึ่งวิถีชีวิตความเป็นอยู่ยังคงความเป็นชาวอีสาน ไม่ว่าจะอาหารการกิน หรือ งานบุญประเพณีต่างๆ เช่น การสวดซำฮะ หรือ การแห่บั้งไฟ
ตลาดชายแดนซับตารี
เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๔ ก่อนจะเป็นตลาดซับตารี ทั่วบริเวณตลาด คือ จุดพักไม้ กองไม้สัมปทานจากรัฐบาลกัมพูชาส่งต่อโรงงานแปรรูปในไทย แต่เมื่อสหประชาชาติและนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมคัดค้านการตัดไม้จากกัมพูชา จึงทำให้สิ้นสุดการทำไม้บริเวณชายแดน
ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๘ หลังสงครามสงบลง ตลาดการค้าชายแดนขยายตัวเริ่มมีชาวกัมพูชาอพยพเข้ามาหากินและทำการค้าขายเล็กๆ น้อยๆ ร่วมกับคนไทย โดยนำสัตว์ป่า ของป่า สมุนไพร และของที่หาได้จากป่า เช่น น้ำผึ้งป่ามาค้าขายในแนวชายแดนหมู่บ้านซับตารี
และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของตลาดซับตารีจากร้านค้าของคนไทยและคนกัมพูชาที่มีเพียงไม่กี่ร้าน จึงค่อยๆ เติบโตขึ้นเป็นร้านค้าเกือบ ๑๐๐ ร้าน และทำให้ตลาดแห่งนี้กลายเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนรายได้ระหว่างสองประเทศอย่างมหาศาล ปัจจุบันเป็นจุดผ่อนปรนบ้านซับตารี ชาวกัมพูชายังคงข้ามแดนเข้ามาซื้อสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค เสื้อผ้า ของใช้ อาหาร ผลไม้ และยังคงเดินทางเข้ามารับจ้างเป็นแรงงานตามสวนผลไม้ในพื้นที่อำเภอสอยดาวอีกด้วย
ผลิตภัณฑ์
กระเทียมแห้ง หอมแดง ข้าวเหนียว ทอเสื่อพื้นบ้าน น้ำสมุนไพร ไส้อั่ว ไส้กรอก กล้วยฉาบ กล้วยอบน้ำผึ้ง ข้าวเกรียบหูช้าง
ข้อมูลติดต่อ
บ้านซับตารี หมู่ ๒ ตำบลทุ่งขนาน อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี
คุณนันทะ ๐๘๐ ๖๓๑ ๓๔๔๔ ๐๘๒ ๕๙๖ ๘๙๙๕
9. บ้านสวนส้ม หมู่ที่ 5 ตำบลสะตอน อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี
“ผลิตภัณฑ์จากไม้ ค้าขายชายแดน แน่นเฟ้นเพื่อนบ้าน ด้านการเกษตรนำร่อง”
ประวัติความเป็นมา
ปี พ.ศ. ๒๕๑๗ - ๒๕๑๘ เดิมทีบริเวณนี้เป็นพื้นที่ทำสวนส้มโอของนายสมพงษ์ ณ บางช้าง มาก่อนหลังจากนั้น ก็มีการรวบรวมกลุ่มชาวบ้านที่กระจัดกระจายอยู่บริเวณนั้นเพื่อก่อตั้งเป็นหมู่บ้านเขตป้องกันตัวเองชายแดนจันทบุรี เพื่อความมั่นคง ในปีพ.ศ. ๒๕๒๕ - ๒๕๒๖ จึงตั้งชื่อว่า “บ้านสวนส้ม”
ในช่วงนั้นมีสงครามระหว่างเวียดนามและเขมรแดง หลังจากที่สงครามเริ่มสงบจึงมีการประกาศเปลี่ยนสนามรบ
เป็นสนามการค้า และเริ่มทำการค้าไม้ระหว่างไทยและกัมพูชา ตลาดการค้าไม้ในสมัยนั้นได้รับความนิยมมากจึงทำให้ช่างไม้จากทั้งทางภาคเหนือและอีสานย้ายถิ่นฐานเข้ามาในบ้านสวนส้มจนเป็นชุมชนอุตสาหกรรมงานไม้และเฟอร์นิเจอร์
ตลาดเฟอร์นิเจอร์
มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักว่าตลาดสวนส้มส่วนใหญ่ได้รับการสืบทอดผีมือช่าง ตั้งแต่โบราณจากรุ่นสู่รุ่นนิยมแปรรูปไม้ ทุกชนิดเพื่อสร้างเป็นเฟอร์นิเจอร์ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง เช่น ตู้ โต๊ะ เตียง บานประตู และของที่ระลึกขนาดเล็ก เช่น พวงกุญแจ ป้ายที่ทำจากไม้แบบต่างๆ
สวนกล้วยไข่ ๓,๐๐๐ ไร่
เป็นการรวมพื้นที่ของชาวบ้านที่ปลูกกล้วยไข่เหมือนกันจัดเป็นวิธีเกษตรของชาวบ้านในชุมชนที่สามารถส่งเสริม การเรียนรู้ให้กับนักท่องเที่ยวได้ และเพิ่มเติมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ขี่รถไถ รถซาเล้ง และรถอีแต๊ก
นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวเช็คอินมากมาย อาทิเช่น วัดเขาแจงแบง, หลุมหลบภัยตรงบริเวณชายแดน, ตลาดประชารัฐ
ผลิตภัณฑ์
ป้ายไม้ธรรมชาติ ไข่เค็ม ปลาร้าสับสมุนไพร น้ำพริกเผา น้ำปลาร้าต้มปรุงรส กล้วยกวน กล้วยฉาบ กล้วยตากอบน้ำผึ้ง ถ่านอัดแท่ง ลำไยอบเนื้อทอง
ข้อมูลติดต่อ
บ้านสวนส้ม หมู่ 5 ตำบลสะตอน อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี
คุณมนัส ๐๘๙ ๐๑๔ ๐๒๖๔
10. บ้านแหลม หมู่ ๔ ตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี
“ดินแดนสองแผ่นดิน ถิ่นประวัติศาสตร์”
ประวัติบ้านแหลม
เดิมเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กได้ก่อตั้งมาแล้วกว่าร้อยปี สาเหตุที่ชื่อว่าบ้านแหลมเนื่องจากว่าอยู่ในปลายแหลมสุดของแม่น้ำที่กั้นพรมแดนไว้ ปัจจุบันบ้านแหลมได้มีจุดข้ามแดนถาวรผู้คนบ้านแหลมมีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายมีภาษาท้องถิ่นเป็นของตัวเองยังถือได้ว่าเป็นชุมชนชนบท พึ่งพาอาศัยกันแบบพี่น้อง ภายในชุมชนบ้านแหลมมีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มีโรงปฐมวัย และวัดบ้านแหลม
วัดบ้านแหลม
วัดบ้านแหลมก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ ๒๔๔๐ อยู่คู่ชุมชนมากกว่า ๑๐๐ ปี โดยมีหลวงตาตุ๋ยเป็นเจ้าอาวาสปกครองรูปแรกสมัยก่อนเกิดสงครามภายในกับประเทศกัมพูชาซึ่งส่งผลกระทบต่อชุมชนมีลูกปืนใหญ่ข้ามแดนมาตกที่หมู่บ้านหลวงตาตุ๋ยเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นที่เลื่อมใสของชาวบ้านในขณะนั้นให้การดูแล ปัจจุบันวัดบ้านแหลมได้รับการบูรณะวัดให้มีความสวยงามร่มเย็นเหมาะสำหรับชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาทำบุญพร้อมนมัสการ
หลุมหลบภัย
เมื่อปี พ.ศ ๒๕๑๘ ได้เกิดสงครามเขมรแดง ซึ่งสร้างผลกระทบต่อชุมชนบ้านแหลมอย่างหนัก ได้มีลูกกระสุนปืนใหญ่ตกเข้ามาในชุมชน ต่อมาปี พ.ศ ๒๕๒๐ ทางการได้มีงบประมาณสร้างหลุมหลบภัยให้กับชุมชนบ้านแหลมเพื่อให้ความปลอดภัยกับคนในชุมชน
นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวเช็คอินมากมาย สวนผักออแกนิก, ต้นไทรร้อยปี, คลองคูเรต
ผลิตภัณฑ์
น้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ลูกประคบสมุนไพร ไข่เป็ดหนูดี ถ่านโลกเขียว ผักทานตะวันงอก ปุ๋ยหมักมูลไก่ ผักอินทรีย์ กระบุงจักสาน น้ำพริกเผากากหมูแหลมทอง ข้าวเกรียบลำไย
ข้อมูลติดต่อ
บ้านแหลม หมู่ ๔ ตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี
คุณสมจิตร์ พิศพรรณ โทร. ๐๙๘ ๐๖๒ ๙๘๗๐
23 พฤศจิกายน 2561