“ชาร์ป ไทย” ผนึกภาครัฐ ร่วมต้านภัยมลพิษทางอากาศ ส่งมอบผลิตภัณฑ์ “พลาสม่าคลัสเตอร์” แก่ 4 โรงพยาบาล

8  มีนาคม  2562 ชาร์ป ไทย  ผู้จัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ “ชาร์ป”  เจ้าของลิขสิทธิ์เทคโนโลยี “พลาสม่าคลัสเตอร์” (Plasmacluster) ที่ครองส่วนแบ่งตลาดใหญ่ที่สุดในระดับโลกและอาเซียน โดยมียอดขายมากกว่า 80 ล้านเครื่องทั่วโลก ส่งมอบผลิตภัณฑ์ “ชาร์ป พลาสม่าคลัสเตอร์”  แก่ 4 หน่วยงานด้านสุขภาพของรัฐ ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช  โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า  โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อแก้ไขและปกป้องสุขภาพผู้ป่วยจากมลพิษทางอากาศ ภัยร้ายที่อันตรายกว่าที่คิด

ปัญหามลพิษทางอากาศกำลังเป็นภัยคุกคามผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ตามเมืองใหญ่ซึ่งมีปัจจัยที่ก่อให้เกิดมลพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมากมาย ด้วยเหตุนี้เมืองต่าง ๆ ทั่วโลกจึงพยายามหาทางออกในการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศที่กำลังคุกคามสุขภาพของชาวเมือง   สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย นับตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2562  สังคมไทยได้เกิดกระแสการตื่นตัวในวงกว้าง ถึงภัยอันตรายจากปัญหามลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ  การต้องเผชิญกับภาวะฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ที่สูงเกินค่ามาตรฐานที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ  เพราะสามารถแทรกซึมเข้าสู่ถุงลมปอด รวมทั้งระบบไหลเวียนของโลหิตได้ง่าย ในปริมาณที่มากกว่าฝุ่นควัน PM10 จึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั้งในระยะเฉียบพลันและในระยะยาวรุนแรงกว่า PM10 เกือบ 2 เท่า  ทำให้เกิดโรคและกระตุ้นให้โรคกำเริบได้ เช่น โรคหัวใจ โรคเส้นเลือดในสมอง โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ และหืดหอบ อีกทั้งมีความเสี่ยงของโรคมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นและยังมีผลเสียกับระบบประสาท และระบบทางเดินอาหารด้วย ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กทารก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคปอด โรคหัวใจ จะมีความไวและเกิดอาการได้ง่ายกว่าบุคคลอื่น ๆ

ปัจจุบันองค์การอนามัยโลก (WHO) ตั้งมาตรฐานฝุ่นละออง PM2.5 เฉลี่ย 1 ปีไว้ที่ 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และเฉลี่ย 24 ชั่วโมงไว้ที่ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในขณะที่กรมควบคุมมลพิษของไทยตั้งค่าความปลอดภัยด้านปริมาณฝุ่นละอองสูงกว่านานาชาติ โดยกำหนดเพดานเฉลี่ย 1 ปี ที่ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และเฉลี่ย 24 ชั่วโมงที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร  ดังนั้นในการกำหนดเกณฑ์ดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ของไทย จากการกำหนด “สี” เป็นสัญลักษณ์  ฝุ่นระดับ 101-200 อยู่ในระดับสีส้ม ซึ่งหมายถึงอากาศพิษที่เริ่มมีผลต่อสุขภาพ แต่หากเปรียบเทียบกับมาตรฐานสากลแล้วค่ามลพิษทางอากาศเกิน 150 จะถือเป็นพื้นที่สีแดงซึ่งหมายถึงมีผลกระทบเป็นอันตรายต่อสุขภาพแล้ว

มิสเตอร์ โรเบิร์ต อู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด เผยว่า “จากข้อมูลของกรมอนามัยโลก (WHO) ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2561 พบว่ามลพิษทางอากาศเป็นปัญหาร้ายแรงที่เกิดขึ้นทั่วโลกโดยเฉพาะในเอเชีย  มากกว่า 90% ของผู้คนทั่วโลกต้องหายใจในอากาศที่มีมลพิษระดับสูง โดยแต่ละปีมีคนกว่า 7 ล้านคนเสียชีวิตเนื่องจากมลพิษทางอากาศ และตลอดปี พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา  คนในกรุงเทพมหานครต้องเผชิญกับวันที่มีมลพิษทางอากาศสูงถึง 170 วันใน 1 ปี  และมีดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) สูงถึงระดับ 154  ซึ่งปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบให้โรงเรียนและธุรกิจหลายแห่งปิดทำการชั่วคราว ผู้คนจำนวนมากต้องเผชิญกับความผิดปกติในการดำเนินชีวิต  และระบบเศรษฐกิจไทยได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง   และเราจะเผชิญกับปัญหาที่สำคัญนี้อย่างไร

ซึ่งในวันนี้ชาร์ปขอเสนอแนะการต่อสู้กับมลพิษทางอากาศโดยใช้เทคโนโลยี พลาสม่า คลัสเตอร์ของชาร์ป นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นลิขสิทธิ์ของชาร์ปที่ผ่านการทดสอบและพิสูจน์โดยสถาบันวิจัยต่าง ๆ มากมายทั่วโลก  เทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์จะสร้างไอออนบวกและลบซึ่งมีอยู่แล้วในธรรมชาติและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม  ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถทำให้อากาศบริสุทธิ์ กำจัดกลิ่น  ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และลดไฟฟ้าสถิตย์ ผลิตภัณฑ์ที่ติดตั้ง พลาสม่าคลัสเตอร์ของชาร์ปจึงมียอดขายมากกว่า 80 ล้านเครื่องทั่วโลก

ดังนั้นเมื่อไม่อาจควบคุมสถานการณ์อากาศกลางแจ้งได้ แต่เราสามารถมั่นใจได้ว่ามีอากาศที่ดีภายในร่มรอบตัวเรา  ในอนาคตอันใกล้นี้ชาร์ปไทยได้วางแผนในการบรรจุเทคโนโลยี“ชาร์ป พลาสม่าคลัสเตอร์” ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ แบบครบวงจร ไม่เพียงแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์อีกด้วย  ด้วยความมุ่งหวังที่จะมอบอากาศ อาหาร และน้ำที่สะอาดให้กับลูกค้าของเราทุกคน

ในฐานะที่ ‘ชาร์ป’ เป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมไทย และจะร่วมต่อสู้กับมลพิษทางอากาศร่วมกับคนไทย  จึงได้ริเริ่มโครงการความร่วมมือกับ บริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด (บีเอ็มเอ็น) ผู้ดำเนินการธุรกิจในการบริหารพื้นที่เชิงพาณิช์ภายในสถานีรถไฟฟ้า MRT เพื่อมอบอากาศที่บริสุทธิ์สำหรับพื้นที่สาธารณะ ด้วยเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ ในอนาคตอันใกล้นี้ และในวันนี้เราได้มีพิธีมอบ ชาร์ป พลาสม่าคลัสเตอร์ ให้กับโรงพยาบาล 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อใช้ในการปกป้องสุขภาพของผู้ป่วยที่เข้ามารักษาตัว” 

 “พลาสม่าคลัสเตอร์”เป็นเทคโนโลยีการฟอกอากาศซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของชาร์ปที่สามารถปล่อยอนุภาคไฟฟ้าประจุบวกและลบแบบเดียวกันกับที่มีในธรรมชาติ โดยอนุภาคเหล่านี้จะเข้าทำลายผนังเซลล์ของเชื้อรา เชื้อไวรัส และแบคทีเรีย เข้าสลายสารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่นซึ่งปะปนอยู่ในอากาศ ยับยั้งการเพิ่มขึ้นของสารก่อภูมิแพ้และฝุ่นละอองส่วนใหญ่ที่หมุนเวียนอยู่ในอากาศและยากที่ตกลงบนพื้น รวมถึงหมอกควันไฟ กลิ่นอับชื้น พร้อมด้วยสุดยอดของระบบหมุนเวียนอากาศที่ให้ประสิทธิภาพการกำจัดฝุ่นละอองได้อย่างรวดเร็ว และแผ่นกรอง HEPA คุณภาพสูงที่สามารถกำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าได้ถึง 99.97% ทดสอบโดย Japan Synthetic Textile Inspection Institute Foundation สามารถช่วยกำจัดฝุ่นละอองในอาคารและทำให้อากาศสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เทคโนโลยี “พลาสม่าคลัสเตอร์” ได้ผ่านการรับรองและพิสูจน์โดยสถาบันวิจัยนานาชาติ 30 แห่ง และสถาบันการแพทย์ในประเทศไทย 2 แห่ง และยอดขายผลิตภัณฑ์กลุ่ม พลาสม่า คลัสเตอร์ของชาร์ปพุ่งสูงถึง 80 ล้านเครื่องทั่วโลกและเป็นแบรนด์เครื่องฟอกอากาศอันดับ 1 ของโลกและอาเซียน (การจัดส่งสินค้าทั้งหมดทั่วโลกพร้อมกับเทคโนโลยีพลาสม่า คลัสเตอร์รวมถึงเครื่องกำเนิดไอออนบวกพลาสม่าคลัสเตอร์ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2543 – ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2560) 

9 มีนาคม 2562


บริษัท มีเดีย เน็ทเวิร์ค จำกัด
138, 140 ซอยอนามัย ถนนศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250
MEDIA NETWORK Co.,Ltd
138, 140 Soi Anamai Srinakarin Road Suanluang Suanluang Bangkok 10250
Tel. 02 721 4417 Fax. 02 721 5516
E-mail : phototechthailand@gmail.com


ติดต่อโฆษณาหรือข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 02 721 4417 , 097 921 2929 คุณขวัญ

แฟนเพจ Phototech Magazine


ออกแบบโดย touronthai