คอสตา เวเนเซีย (Costa Venezia) เรือสำราญ เข้าเทียบท่าแหลมฉบังเป็นครั้งแรก
คอสตา เวเนเซีย และมนต์เสน่ห์แห่งเมืองเวนิส พร้อมมอบสิ่งที่ดีที่สุดจากอิตาลีให้แก่นักท่องเที่ยวชาวเอเชีย
แหลมฉบัง, 17 เมษายน 2562 - คอสตา ครุยส์ (Costa Cruises) กลุ่มบริษัทผู้ให้บริการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุด สัญชาติอิตาลี และบริษัทเดินเรือสำราญอันดับหนึ่งของยุโรปฉลองการนำเรือคอสตา เวเนเซีย (Costa Venezia) เข้าเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบังเป็นครั้งแรกในวันนี้
Costa Venezia เป็นเรือสำราญที่ได้รับการออกแบบโดยนำเสน่ห์ในด้านต่างๆ ของประเทศอิตาลีมารวมกันไว้ อย่างครบครัน เพื่อมานำเสนอให้แก่ตลาดเอเชียโดยเฉพาะ ทั้งยังเป็นเรือที่ใหญ่ที่สุดที่มีการเปิดตัวในภูมิภาคนี้ซึ่ง Costa Cruises เป็นบริษัทแรกที่เริ่มเปิดเส้นทางนี้มาตั้งแต่ปี 2549
มร.โรเบอร์โต เวอร์ดิโน รองผู้จัดการประจำประเทศญี่ปุ่น เกาหลี และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Costa Group กล่าวว่า “Costa Venezia ที่ได้รับการออกแบบขึ้นมาเพื่อนักท่องเที่ยวชาวเอเชียโดยเฉพาะ ไม่เพียงแต่จะพรีเซนต์ความเป็นอิตาลีขนานแท้ แต่ยังจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายและภัตตาคารสุดพิเศษที่จัดเตรียมไว้สำหรับลูกค้าชาวเอเชีย การที่มี Costa Venezia เข้ามาเพิ่มในหมู่เรือของ Costa Asia ในครั้งนี้จะทำให้ลูกค้าของเราในภูมิภาคเอเชียได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่เรียกว่า “The Best Time at Sea” ในการท่องเที่ยวทางเรือสำราญในช่วงวันหยุด ทั้งยังเป็นการแสดงถึงความเชื่อมั่นของ Costa Cruises ในตลาดเอเชียด้วย”
ตัวเรือมีน้ำหนักรวม 135,500 ตัน ยาว 323 เมตร และจุผู้โดยสารได้มากกว่า 5,200 คน Costa Venezia ไม่เพียง แต่จะมีนวัตกรรมสมัยใหม่ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน ซึ่งออกแบบขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อนักเดินทางชาวเอเชีย แต่ยังมี องค์ประกอบมากมายที่จะถ่ายทอดเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรม ไลฟ์สไตล์ และความพิเศษของประเทศอิตาลีและ เมืองเวนิสให้แขกทุกคนได้สัมผัส เริ่มจากการตกแต่งภายในให้มีบรรยากาศเช่นเดียวกับเมืองเวนิส โรงละครของ เรือที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Venetian La Fenice โรงละครโอเปร่าที่มีชื่อเสียงก้องโลก ห้องโถงใหญ่ที่ชวนให้ นึกถึงจัตุรัสเซนต์มาร์ค ในขณะที่ภัตตาคารหลักๆ ภายในเรือยังจำลองสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของตรอกซอย และจัตุรัสต่างๆ ของเมืองเวนิส ทั้งยังมีเรือกอนโดลาของแท้ที่สร้างขึ้นโดยช่างฝีมือแห่ง Squero di San Trovaso โรงต่อเรือกอนโดลาที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดของเมืองเวนิส นอกจากนี้ ผู้โดยสารยังสามารถลิ้มลองความ อร่อยของอาหารท้องถิ่นอิตาเลียน หรือดื่มด่ำเมนูขึ้นชื่อจากเชฟ Umberto Bombana แห่ง 81/2 Otto e Mezzo Bombana ภัตตาคารระดับ 3 ดาวมิชลินสตาร์ ภายในภัตตาคาร Casanova หนึ่งในห้าภัตตาคารสุดพิเศษบนเรือ Costa Venezia หรือแม้แต่เลือกที่จะรู้สึกเหมือนอยู่บ้านกับเมนูที่คุ้นเคยของอาหารเอเชียอย่างฮอทพอท บะหมี่ เทปันยากิ ติ่มซำ เป็นต้น
ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินกับการช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกมากมายในช็อปปิ้งพาวิเลียนสไตล์เวนิสที่มี ขนาดใหญ่กว่า 8,000 ตารางฟุต ครอบคลุมพื้นที่สองชั้น จาก Starboard Cruise Services ผู้ให้บริการรีเทลระดับ พรีเมียมบนเรือสำราญ ซึ่งรวมถึงแบรนด์อิตาลีชื่อดังที่ออกสู่ท้องทะเลเป็นครั้งแรก ได้แก่ Max Mara, Salvatore Ferragamo และ Bvlgari
นอกจากนี้ Costa Venezia ยังจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักช็อปชาวเอเชียด้วยแผนกสินค้าความงามที่ใหญ่ ที่สุดในท้องทะเล บนพื้นที่ใหญ่กว่า 2,500 ตารางฟุต กับแบรนด์ดังมากกว่า 30 แบรนด์ เช่น Yves Saint Laurent, La Prairie, Bvlgari, Chanel, Dior, La Mer, SK-II รวมถึงแบรนด์ดังที่วางจำหน่ายบนเรือสำราญเป็นครั้งแรก อย่าง Clé de Peau Beauté และ Hermès ส่วนแบรนด์เอเชีย ประกอบด้วย Dr.Jart+, Sulwhasoo และ The History of Whoo สำหรับ The Merchant of Venice แบรนด์น้ำหอมชั้นเลิศที่เชิดชูความงามของวัฒนธรรมเวนิสก็พร้อมเปิดตัวเป็นครั้งแรกในเอเชียกับการท่องทะเลครั้งนี้ของ Costa Venezia
แบรนด์ Bvlgari ยังได้ร่วมกับ Costa Cruises และ Starboard จัดงานเปิดตัวสินค้าอัญมณีกลางท้องทะเล ในชื่อ “The Bvlgari Jewelry Show” ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นค่ำคืนสุดอลังการของหัตถศิลป์อัญมณีสุดประณีตจาก ประเทศอิตาลี โดยผู้โดยสารบน Costa Venezia ล้วนได้สัมผัสกับ “la dolce vita” หรือความฝันแห่งอิตาลี ซึ่งเป็น การนำเสนออัญมณีให้เลอค่าจาก Bvlgari ภายในร้านบูติคของ Bvlgari
แบรนด์สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับอื่นๆ เช่น Cartier, Jaeger-LeCoultre, Tiffany & Co., Mikimoto เป็นต้น ซึ่งจะทำให้แขกของ Costa Venezia อดใจไม่ไหวที่จะต้องช็อปแบบดิวตี้ฟรีก่อนลงเรือจากไป
ในช่วงดึก ผู้โดยสารยังจะได้ชมการแสดงนานาประเภท รวมถึง “Venezia Innamorata” ละครเพลงที่ได้รับแรง บันดาลใจจากนิยายรักของนักเขียนและนักผจญภัยชื่อดังชาวอิตาเลียน Giacomo Casanova ซึ่งถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับโรงละคร Teatro Rosso ของเรือ Costa Venezia หรือจะเป็นปาร์ตี้ในธีมต่างๆ เช่น “Golden Party” และ “Carnival of Venice” ปาร์ตี้ที่เป็นซิกเนเจอร์ของเรือ ซึ่งผู้โดยสารจะสวมหน้ากากเข้าร่วม งานเต้นรำในบรรยากาศ The City of Canals
สำหรับผู้ชื่นชอบกีฬาฟุตบอล ก็สามารถได้รับประสบการณ์ฟุตบอลอิตาลีแบบ 360 องศา ที่จะไม่มีวันลืมจาก สโมสรยูเวนตุส ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งสนามฟุตบอลกลางแจ้ง อะคาเดมีในร่ม พิพิธภัณฑ์ ประวัติศาสตร์ของสโมสรฯ ที่รวบรวมถ้วยรางวัลและของจารึกที่หาดูได้ยากตั้งแต่ทศวรรษที่ 70 นิตยสารภาพใน ยุคต่างๆ ชุดแข่งในแต่ละฤดูกาล และรองเท้าฟุตบอลที่เซ็นชื่อโดยนักฟุตบอลชื่อดัง ทั้งยังมีร้านขายของที่ระลึกที่มี สินค้าลิมิเต็ดอิดิชั่นมากมาย
หรือหากใครที่สนใจกิจกรรมกลางแจ้ง ก็ยังสามารถเลือกที่จะเพลิดเพลินในสระว่ายน้ำทั้งกลางแจ้งและในร่ม หรือสระจากุซซี่ สวนน้ำพร้อมสไลเดอร์ สนามมินิกอล์ฟ กิจกรรมฐานเชือก อุปกรณ์ออกกำลังกายกลางแจ้ง ศูนย์สุขภาพ พร้อมยิมและสปา อีกทั้งยังมีคลับสำหรับวัยรุ่นและเด็กๆ
เมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา Costa Venezia ได้ออกเดินทางเป็นครั้งแรกสู่ทริปอันน่าทึ่งตลอด 53 วัน จากท่าเรือ เมืองตริเอสเต ประเทศอิตาลี สู่การล่องเรือตามรอยมาร์โค โปโล ผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปยังตะวันออกกลาง เข้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกไกล ก่อนจะเข้าเทียบท่าที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ทางกลุ่มบริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวเรือสำราญลำที่สองที่ออกแบบขึ้นมาเพื่อตลาดเอเชียโดยเฉพาะเช่นเดียวกับ Costa Venezia ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างโดย Fincantieri ในเมืองมาร์เกรา และคาดว่าจะเริ่มทำการได้ ในปี 2563 และนั่นหมายถึงการผนึกกำลังร่วมกับ Costa Venezia ในการขยายตลาดการท่องเที่ยวทางเรือสำราญ ของบริษัทในตลาดเอเชีย
17 เมษายน 2562