ประกาศราชกิจจานุเบกษา วช. เป็น “สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ” มีผลบังคับใช้แล้ว

          ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ประกาศการจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย “สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ” ได้ปรับเปลี่ยนชื่อเป็น “สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ” เป็นหน่วยงานราชการในกระทรวงดังกล่าว ตาม พ.ร.บ. ใหม่

           ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า รัฐบาลได้มีการปฏิรูประบบการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ เพื่อเป็นกลไกการบูรณาการการวิจัยและนวัตกรรมให้ตรงกับความต้องการและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยได้จัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมขึ้น โดยกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ มีผลใช้บังคับในวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๒ มีผลให้ วช. ได้ปรับเป็น  “สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ” มีหน้าที่ใน ๗ ภารกิจที่สำคัญในระดับประเทศ เป็นหน่วยงานให้ทุนวิจัยและนวัตกรรมหลักของประเทศ จัดทำฐานข้อมูลและดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ, ริเริ่ม ขับเคลื่อนและประสานการดำเนินงานโครงการวิจัยและนวัตกรรมที่สำคัญของประเทศ, จัดทำมาตรฐานและจริยธรรมการวิจัย, ส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้เพื่อใช้ประโยชน์, ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรด้านวิจัยและนวัตกรรม และการให้รางวัล ประกาศเกียรติคุณหรือยกย่องบุคคลหรือหน่วยงานด้านวิจัยและนวัตกรรม ทั้งนี้ วช. ได้เตรียมการเรียบร้อยแล้ว พร้อมปฏิบัติงานได้ทันที โดยเฉพาะด้านการให้ทุนวิจัยและนวัตกรรมหลักของประเทศ ซึ่ง วช. ได้นำเสนอทิศทางใหม่ของระบบทุนวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ดังนี้

1. Multi-year funding ด้วยการจัดสรรเงินตามกรอบวงเงินจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

ได้อย่างต่อเนื่องจนโครงการสำเร็จได้

2. Outcome- and impact- driven เพื่อให้ทุนในเชิงรุกตามประเด็นยุทธศาสตร์ให้เกิดผลลัพธ์และผลกระทบสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ

3. Synergy & partnership เชื่อมโยงและเสริมพลัง ระหว่างหน่วยให้ทุน (วช., สวก., สวรส.) มหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยทั้งในและนอกกระทรวง และการให้ทุนวิจัยครอบคลุมการวิจัยพื้นฐาน วิจัยประยุกต์ ทั้งวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ รวมทั้ง สหสาขาวิชาการ และเชื่อมกับการพัฒนาบุคลากรวิจัยและการให้รางวัล

4. Streamlined process โดยพัฒนากลไกการทำงานด้วยระบบ Online 100% 5G- funding, กลไก ODU,Program Funding และ Matching Fund และ Monitoring and Evaluation โดยผู้ใช้ผลการวิจัย

    ทั้งนี้ วช. มีความพร้อมในการปรับระดับการทำงานที่สอดรับกับภารกิจใหม่ โดยยึดหลักรวดเร็ว ว่องไว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เฉกเช่นเดียวกับระบบการสื่อสารในอนาคต ยุค 5G ที่ตอบสนองไว รับส่ง ถ่ายโอน และเชื่อมต่อข้อมูลได้หลากหลาย เพื่อนำ วช. สู่การสร้างวัฒนธรรมใหม่ในการเป็น วช. 5G อันประกอบด้วย Speed ทำงานได้รวดเร็วขึ้น Start เริ่มทำงานได้ทันที ตอบสนองฉับพลัน Scope ขยายขอบข่ายการทำงานในระดับชาติ และนานาชาติ Connectivity เชื่อมโยงการทำงานระหว่างหน่วยงานวิจัยทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ Low Energy มีผลสัมฤทธิ์โดยใช้ต้นทุนต่ำแต่ได้งานมาก Smooth ลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็น สามารถทำงานโดยไม่มีข้อจำกัด และ New Features คิดริเริ่มงานใหม่ งานที่ไม่เคยทำหรืองานที่ไม่มีใครเคยทำ โดยได้เตรียมความพร้อมในการทำงานให้สอดคล้องกับทิศทางและเป้าหมายใหม่ได้ทันที ซึ่งการขับเคลื่อนนี้ต้องรวมพลังของบุคลากรและหน่วยงานในระบบวิจัยทั้งหมดร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสังคมไทยไปด้วยกัน ซึ่งการบริหารงานในส่วนของอุดมศึกษานั้นต้องเป็นเอกภาพ มีอิสระ และที่สำคัญกระทรวงดังกล่าวนี้จะเป็นกระทรวงที่รวมสถาบันอุดมศึกษาที่เชื่อมต่อไปยังแผนงานด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมที่ลงตัวที่สุดจนนำไปสู่การพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2 พฤษภาคม 2562


บริษัท มีเดีย เน็ทเวิร์ค จำกัด
138, 140 ซอยอนามัย ถนนศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250
MEDIA NETWORK Co.,Ltd
138, 140 Soi Anamai Srinakarin Road Suanluang Suanluang Bangkok 10250
Tel. 02 721 4417 Fax. 02 721 5516
E-mail : phototechthailand@gmail.com


ติดต่อโฆษณาหรือข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 02 721 4417 , 097 921 2929 คุณขวัญ

แฟนเพจ Phototech Magazine


ออกแบบโดย touronthai