Vivo เปิดตัวนวัตกรรม 5G สุดล้ำพร้อมใช้งาน, Vivo AR Glass, และ Super FlashCharge 120 วัตต์ ในงาน Mobile World Congress Shanghai 2019 ที่นครเซี่ยงไฮ้ ของประเทศจีน

นครเซี่ยงไฮ้, ประเทศจีน, [มิถุนายน 26, 2562] Vivo ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่งาน Mobile World Congress (MWC) 2019 ซึ่งจัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ ของประเทศจีน ซึ่งการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุดนี้ นับเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ใหม่ของทาง Vivo ที่มุ่งเน้นการส่งมอบประสบการณ์การใช้โทรศัพท์มือถืออย่างเต็มเปี่ยมในยุค 5G โดยทาง Vivo ได้นำเครื่องมือ อุปกรณ์ และแอปพลิเคชั่นอันชาญฉลาด ที่สามารถใช้งาน 5G ได้ นำไปโชว์ภายในงานอย่างมากมาย ซึ่งสอดคล้องกับตีม “Intelligent Connectivity” หรือการเชื่อมต่ออย่างชาญฉลาดของงาน MWC ในปีนี้ โดยนอกจากอุปกรณ์และแอปพลิเคชั่นอันชาญฉลาดที่สามารถใช้งาน 5G ได้นั้น Vivo ยังได้นำนวัตกรรมล้ำสมัยอย่างเทคโนโลยีที่สร้างความเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ ๆ  นำไปจัดแสดงอวดโฉมต่อผู้ร่วมชมงานอีกด้วย ทั้งยังเป็นการแสดงให้ทุกคนได้เห็นถึงพันธกิจในการยกระดับรุ่นถัดไปของประสบการณ์การใช้โทรศัพท์มือถือ ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

Vivo ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่งาน Mobile World Congress (MWC) 2019 ซึ่งจัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ ของประเทศจีน ซึ่งการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุดนี้ นับเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ใหม่ของทาง Vivo ที่มุ่งเน้นการส่งมอบประสบการณ์การใช้โทรศัพท์มือถืออย่างเต็มเปี่ยมในยุค 5G โดยทาง Vivo ได้นำเครื่องมือ อุปกรณ์ และแอปพลิเคชั่นอันชาญฉลาด ที่สามารถใช้งาน 5G ได้ นำไปโชว์ภายในงานอย่างมากมาย ซึ่งสอดคล้องกับธีม “Intelligent Connectivity” หรือการเชื่อมต่ออย่างชาญฉลาดของงาน MWC ในปีนี้ โดยนอกจากอุปกรณ์และแอปพลิเคชั่นอันชาญฉลาดที่สามารถใช้งาน 5G ได้นั้น Vivo ยังได้นำนวัตกรรมล้ำสมัยอย่างเทคโนโลยีที่สร้างความเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ ๆ  นำไปจัดแสดงอวดโฉมต่อผู้ร่วมชมงานอีกด้วย ทั้งยังเป็นการแสดงให้ทุกคนได้เห็นถึงพันธกิจในการยกระดับรุ่นถัดไปของประสบการณ์การใช้โทรศัพท์มือถือ ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

กลยุทธ์ทางธุรกิจโฉมใหม่ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เข้มข้นถึงใจผ่าน Smart Devices

ก่อนที่งาน MWC Shanghai 2019 จะเปิดฉากขึ้น ทาง Vivo ได้ออกมาประกาศกลยุทธ์ในการเร่งเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมของ Vivo ในอุปกรณ์และแอปพลิเคชั่นอันชาญฉลาดเพื่อยุค 5G

เมื่อพิจารณาจากสมาร์ทโฟนที่สามารถใช้งาน 5G ได้นั้น เห็นได้ว่าขณะนี้ Vivo ได้เผยให้เห็นถึงกลยุทธ์ขยายการให้บริการเครื่องมือและอุปกรณ์ 5G ซึ่งมีตั้งแต่ AR glasses, smart watches, smart headphones, และอื่น ๆ อีกมากมาย โดย Vivo ตั้งใจว่าจะนำเอาการเข้าถึงอุปกรณ์และเครื่องมือที่หลากหลาย, แอปพลิเคชั่นที่หลากหลาย, ตลอดจน multi-scenario มาใช้ในการพัฒนาของ Vivo เพื่อเป็นการสนับสนุนความต้องการของผู้บริโภคในการเชื่อมต่อกับทั้งโลกดิจิทัลและโลกแห่งความเป็นจริง และเพื่อเป็นการส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่เต็มเปี่ยมครบถ้วนต่อผู้ใช้งานอุปกรณ์ 5G ของ Vivo

Spark Ni รองประธานอาวุโสของ Vivo กล่าวว่า “ภารกิจของ Vivo ที่เรายึดมันถือมั่นมาเสมอ คือการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรมเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่เต็มเปี่ยมให้กับผู้ใช้งานด้วยเครื่องมือและบริการอันชาญฉลาดที่เรายึดถือเป็นหัวใจสำคัญในธุรกิจของเรา เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจากการนำเสนอกลยุทธ์และนวัตกรรมใหม่ ๆ ในครั้งนี้ เราจะสามารถสร้างผลกระทบอันยิ่งใหญ่ในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คน ตลอดจนสังคม ไปพร้อม ๆ กัน”

สมาร์ทโฟน 5G ตัวแรกของ Vivo จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไตรมาสที่ 3 ของปี 2562

หลังจากการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Vivo NEX 5G รุ่นก่อนวางจำหน่าย ไปแล้วก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าทาง Vivo ไม่ได้หยุดนิ่ง และได้ก้าวกระโดดไปข้างหน้าในแง่ของการพัฒนาสมาร์ทโฟน 5G โดยในงาน MWC Shanghai 2019 ทาง Vivo ได้นำสมาร์ทโฟน 5G ที่จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ นำไปโชว์ภายในงานด้วย

หากพิจารณาจากเน็ตเวิร์ค 5G และสมาร์ทโฟน 5G นั้น ทาง Vivo ยังได้นำเอาแอปพลิเคชั่น 5G มากมาย อย่าง 5G Cloud Game, 5G Screen Mirroring, 5G EasyShare, และแอปพลิเคชั่นล้ำ ๆ  ที่ตอบโจทย์ต่อการใช้ชีวิตของผู้ใช้งานอีกมาก นำไปโชว์ภายในงานอีกด้วย

ตัวอย่างความล้ำสมัยเหนือใครในแง่ของแอปพลิเคชั่น 5G นั้น ทาง Vivo ได้นำ 5G Cloud Game ไปอวดโฉมโชว์ความล้ำในงาน MWC ในครั้งนี้ด้วย โดยแอปพลิเคชั่นที่ว่า เป็นแอปพลิเคชั่นที่ไม่ได้ทำงานบนสมาร์ทโฟนแต่ทำงานบนคลาวด์ผ่านเน็ตเวิร์ค 5G แบบสบาย ๆ ด้วยความเร็วแบบ ultra-high speed ตลอดจนประสบการณ์แบบเรียลไทม์ ultra-low latency  ของเน็ตเวิร์ค 5G โดยการทำงานของแอปพลิเคชั่นผ่านระบบคลาวด์จะทำให้การดูวิดีโอและฟังเพลง เล่นไปได้แบบเรียลไทม์บนอุปกรณ์ 5G ซึ่งจุดเด่นและข้อดีของการย้ายแอปพลิเคชั่นไปดำเนินการบนคลาวด์นั้น ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสนุกสนานและเพลิดเพลินไปกับการรับชมภาพความละเอียดสูงและประสบการณ์การเล่นเกมส์แบบเรียลไทม์ โดยรูปแบบการทำงานของแอปพลิเคชั่นนี้ ยังถูกนำไปใช้กับแอปพลิเคชั่น 5G อื่น ๆ อย่าง 5G Screen Mirroring และ 5G EasyShare.

ที่น่าตื่นเต้นยิ่งไปกว่านั้นคือต่อจากนี้ ผู้ใช้งานจะไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเพิ่มเติมอีกต่อไป เพราะความช่วยเหลือของการให้บริการที่เปิดใช้งาน 5G นั่นเอง

Vivo AR Glass: แนวทางใหม่ของ AR Interaction ในยุค 5G

Vivo ยังได้เปิดตัว Vivo AR Glass เป็นครั้งแรกในงาน MWC Shanghai 2019 ซึ่งนวัตกรรมสุดล้ำตัวนี้ สนับสนุนการใช้งาน 2 หน้าจอ และเทคโนโลยี 6DoF โดยหลังจากที่ผู้ใช้งานเชื่อมต่อ Vivo AR Glass เข้ากับสมาร์ทโฟน 5G พวกเขาจะได้สัมผัสประสบการณ์ตื่นตาตื่นใจจากแอปพลิเคชั่นมากมาย อย่างเช่น mobile office, AR games, วิดีโอความละเอียดสูง 3 มิติ, ระบบจดจำใบหน้าและระบบจดจำวัตถุ บน Vivo AR Glass

และเมื่อ Vivo AR Glass ตรวจจับว่ามีคอนเท้นต์ สมาร์ทโฟน 5G จะทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนและเลือกแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่นตอนเล่นเกม สมาร์ทโฟนจะกลายเป็นแผงควบคุมหลัก แต่หากใช้งาน mobile office setting สมาร์ทโฟนจะกลายเป็นคีย์บอร์ด โดยขณะนี้ มีแอปพลิเคชั่นอยู่ 5 ประเภท ที่สนับสนุนการใช้งาน Vivo AR Glass ได้แก่ mobile game, mobile office, 5G theatre, และระบบจดจำใบหน้าและระบบจดจำวัตถุ

ผู้นำอุตสาหกรรม - Vivo Super FlashCharge 120 วัตต์ ใช้เวลาเพียงแค่ 5 นาทีในการชาร์จแบตให้ได้ถึง 50%

Vivo Super FlashCharge 120 วัตต์ ถือเป็นอีกหนึ่งในวันตกรรมที่สร้างเสียงฮือฮา ซึ่งถูกนำไปโชว์ในงาน  MWC Shanghai โดยนวัตกรรมตัวนี้ นับเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนที่ส่งมอบความสะดวกสบายและความล้ำสมัยด้วยพลังชาร์จ ultra-high power 120 วัตต์ โดย Super FlashCharge 120 วัตต์ ประกอบไปด้วยเทคโนโลยีหัวชาร์จใหม่ซึ่งมีการปรับสายชาร์จ Type-C ตลอดจน travel charger เนื่องด้วยนวัตกรรมนี้เป็นตัวชาร์จ ultra-high power 120 วัตต์ (20V/6A) และเพื่อเป็นการการันตีถึงความรวดเร็วตลอดจนประสิทธิภาพของ Super FlashCharge 120 วัตต์ ทาง Vivo ได้นำ Super FlashCharge 120 วัตต์ ไปทดลองในห้องแลป ซึ่งเผยให้เห็นว่าที่ชาร์จแบตรุ่นนี้ ใช้เวลาเพียงแค่ 5 นาทีในการชาร์จแบตเตอร์รี่ 4,000mAh ให้เพิ่มขึ้นจาก 0 ถึง 50% ได้อย่างไร้ซึ่งปัญหา อีกทั้งยังสามารถชาร์จแบตสมาร์ทโฟนได้เต็มภายในเวลาเพียงแค่ 13 นาทีเท่านั้น โดยนวัตกรรมสุดล้ำที่เรียกเสียงฮือฮาและความสนใจอย่างคับคั่งนี้ ได้ทำให้ผู้ใช้งานสามารถชาร์จแบตสมาร์ทโฟนได้เต็มอย่างรวดเร็วทันใจทันการใช้งาน ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งาน ได้เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ที่เต็มเปี่ยมกับการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดผ่านการใช้สมาร์ทโฟนที่อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมอันล้ำสมัย

30 มิถุนายน 2562


บริษัท มีเดีย เน็ทเวิร์ค จำกัด
138, 140 ซอยอนามัย ถนนศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250
MEDIA NETWORK Co.,Ltd
138, 140 Soi Anamai Srinakarin Road Suanluang Suanluang Bangkok 10250
Tel. 02 721 4417 Fax. 02 721 5516
E-mail : phototechthailand@gmail.com


ติดต่อโฆษณาหรือข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 02 721 4417 , 097 921 2929 คุณขวัญ

แฟนเพจ Phototech Magazine


ออกแบบโดย touronthai