“ปราสาทสด๊กก๊อกธม” ปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก
“ปราสาทสด๊กก๊อกธม” ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง อยู่ห้างจากชายแดนของไทยกับกัมพูชา ประมาณ 1 กิโลเมตร ป็นโบราณสถานขอมที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 14 เพื่อให้ประดิษฐานรูปเคารพและใช้ประกอบพิธีกรรมตามคติความเชื่อในศานาฮินดู ลัทธิโศวนิกาย คำว่า “สด๊กก๊อกธม” เป็นภาษาเขมร คำว่า “สด๊ก” มาจากคำว่า “สด๊อก” แปลว่า รก ทึบ คำว่า “ก๊อก” แปลว่า ต้นกก และคำว่า “ธม” แปลว่า ใหญ่ ดังนั้น “สด๊กก๊อกธม” จึงแปลว่ารกไปด้วยต้นกกขนาดใหญ่
ทางเข้าสู่ตัวปราสาท
ปราสาทหินสด๊กก๊อกธมเป็นปราสาทหินในวัฒนธรรมขอมซึ่งเป็นศาสนสถานเกี่ยวเนื่องกับศาสนาฮินดูแบบไศวนิกายที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก สร้างขึ้นตามลักษณะศิลปะเขมรแบบคลังต่อบาปวนในช่วงพุทธศตวรรษที่ 15-16 มีการสำรวจพบศิลาจารึกสองหลักซึ่งตั้งชื่อว่าจารึกสด๊กก๊อกธมที่มีความสำคัญต่อการศึกษาประวัติศาสตร์ราชวงศ์เขมรเป็นอย่างมาก
ปราสาทสด๊กก๊อกธมปัจจุบันได้รับการบูรณะอย่างถูกต้องและสวยงามด้วยวิธีอนัสติโลซิสหรือการพยายามค้นหาชิ้นส่วนหินที่กระจัดกระจายมาทดลองประกอบกลับคืนตำแหน่งเดิม ทำเครื่องหมายไว้แล้วรื้อออกเพื่อเสริมฐานรากและความแข็งแรงใหม่ จากนั้นจึงนำชิ้นส่วนกลับขึ้นไปประกอบใหม่อีกครั้งหนึ่ง จนทำให้เราได้เห็นสภาพของตัวปราสาทได้อย่างชัดเจน
สิ่งแรกที่เราจะได้เห็นเมื่อจะเดินเข้าสู่ตัวปราสาทก็คือ “เสานางเรียง” เสาหินทรงสี่เหลี่ยมยอดเสาสลักคล้ายรูปดอกบัวตูมจำนวน 86 ต้น ตั้งเรียงรายเป็นระยะทั้งสองข้างเชื่อมไปยังประตูทางเข้าสู่ตัวปราสาท แต่ก่อนจะถึงตัวปราสาทก็จะเจอกำแพงแก้วก่อด้วยศิลาแลง ผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทางเข้ามีโคปุระ (ซุ้มประตู) ชั้นนอกและชั้นใน หน้าบันยังคงปรากฏลวดลายแกะสลัก
สระน้ำรูปปีกกาล้อมตัวปราสาทสองด้าน
ผ่านซุ้มประตูด้านนอกเข้ามาจะเจอคูน้ำรูปปีกกาสองด้านซ้ายขวาล้อมปราสาทชั้นในไว้ ยังคงมีเสานางเรียงเชื่อมไปสู่ระเบียงคดซึ่งก่อด้วยศิลาแลงและหินทรายล้อมรอบตัวปราสาทและสิ่งก่อสร้างชั้นใน มีระเบียงคดชั้นในตรงกลางระเบียงคดทั้งสี่ด้าน โดยโคปุระชั้นในด้านทิศตะวันออกมีขนาดใหญ่ที่สุดแสดงถึงความสำคัญ
จากนั้นเมื่อผ่านระเบียงคดเข้ามาเราจะพบกับ “บรรณาลัย” ทั้งสองด้าน ด้านละ 1 หลัง สันนิษฐานว่าเป็นอาคารที่ใช้เก็บคัมภีร์หรือเป็นวิหารเทพชั้นรอง
จากนั้นก็มาถึงสิ่งก่อสร้างสำคัญคือ “ปราสาทประธาน” ซึ่งเปรียบเสมือนยอดเขาพระสุเมรุที่ประทับของเทพเจ้า มีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ความสูงกว่า 20 เมตร มีบันไดขึ้นลงทางด้านหน้า ฐานก่อด้วยศิลาแลงซ้อนกัน 2 ชั้น ส่วนตัวปราสาทก่อด้วยหินทรายมีทางเข้าด้านทิศตะวันออกและประตูหลอกอีกสามด้าน
ช่องหน้าต่างจากระเบียงคด
ยอดปราสาทประธานเรียงซ้อนลดหลั่นกัน 5 ชั้น แต่ละชั้นแสดงถึงรูปจำลองอาคารหรือชั้นวิมาน ตรงกึ่งกลางมีหน้าบันและกรอบหน้าบันแกะสลักลวดลายพันธุ์พฤกษา มีเศียรนาคประดับอยู่ที่ปลายทั้งสองด้าน หน้าบันชั้นล่างสุดด้านทิศตะวันออกเป็นภาพเล่าเรื่อง “พระศิวนาฎราช”
สร้างกรอบให้ภาพด้วยเลนส์ฟิชอาย
เสน่ห์ของเลนส์ฟิชอาย หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าเลนส์ตาปลา ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถเก็บภาพได้กว้างถึง 180 องศา
เลนส์ตาปลาจะให้สัดส่วนของภาพบิดเบี้ยว ไม่ตรงตามจริง โดยเฉพาะขอบภาพ และคุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งของเลนส์ตาปลาคือ สิ่งที่อยู่ใกล้ จะมีขนาดใหญ่กว่าความเป็นจริงมาก ซึ่งนั่นคือเสน่ห์ของเลนส์ตาปลา ที่ใช้ในการสร้างสรรค์ภาพแปลกๆ ได้หลายแบบ ภาพที่เห็นกันจนชินตา หรือภาพที่แสนจะธรรมดาๆ เมื่อใช้เลนส์ตาปลาถ่ายภาพ จะกลายเป็นภาพที่ดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี
“ห้องครรภคฤหะของปราสาทมีฐานโยนีขนาดใหญ่สำหรับประดิษฐานศิวลึงค์”
ในห้องครรภคฤหะของปราสาทมีฐานโยนีขนาดใหญ่สำหรับประดิษฐานศิวลึงค์ รูปเคารพแทนองค์พระศิวะ ด้านทิศเหนือมีร่องรอยของท่อโสมสูตรหรือรางรับน้ำศักดิ์สิทธิ์จากการประกอบพิธีกรรมให้ไหลออกไปสู่ภายนอกตรงกึ่งกลางช่องประตูหลอก
ด้วยความสำคัญและความงดงามมีเสน่ห์ของปราสาทหินแห่งนี้ กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนปราสาทสด๊กก๊อกธมเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติใน พ.ศ.2478 และประกาศขอบเขตพื้นที่โบราณสถานจำนวน 641 ไร่ 2 งาน 82 ตารางวา
#ปราสาทสด๊กก๊อกธม #morefunตะวันออก #TATNayok #MoreFun@Sakaeo #เที่ยวตะวันออก
❤ ขอขอบคุณ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก
โทร. 0-3731-2282, 0-3731-2284 ได้ทุกวัน เวลา 08.30–16.30 น.
หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.tat8.com, www.facebook.com/tatnayokfans
2 กรกฏาคม 2562